กิเดโอน

ต่อมาชนอิสราเอลก็ทำชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าอีก และพระองค์ทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของชาวมีเดียนเป็นเวลาเจ็ดปี เพราะว่าชาวมีเดียนมีกำลังเข้มแข็งและโหดร้าย จนชาวอิสราเอลต้องหนีไปหาที่หลบซ่อนอยู่ในโพรงตามภูเขา ในถ้ำ และที่มั่นต่างๆ เมื่อใดก็ตามที่ชนอิสราเอลหว่านพืช ชาวมีเดียน ชาวอามาเลข และชนชาติอื่นๆ ทางตะวันออกจะพากันมาบุกรุกพื้นที่ พวกเขามาตั้งค่ายและทำลายพืชพันธุ์ตลอดทางไปถึงกาซา ไม่เหลือสิ่งมีชีวิตสักอย่างเดียวให้ชนอิสราเอล ไม่ว่าแกะ วัว หรือลา พวกเขากรูเข้ามาพร้อมกับฝูงสัตว์ เต็นท์ของเขาเหมือนตั๊กแตนฝูงมหึมา ทั้งคนทั้งอูฐนับไม่ถ้วน พวกเขาบุกรุกเข้ามาเพื่อทำลายล้างดินแดน ชาวมีเดียนทำให้ชนอิสราเอลสิ้นเนื้อประดาตัว จนต้องร้องทูลให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วย

เมื่อชนอิสราเอลร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะคนมีเดียน พระองค์ทรงส่งผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งมาแจ้งว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เราได้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์ ออกจากแดนทาส เรากอบกู้เจ้าจากอำนาจของอียิปต์ จากเงื้อมมือของบรรดาผู้ที่กดขี่ข่มเหงเจ้า เราขับไล่ศัตรูออกไปต่อหน้าเจ้า ยกดินแดนของเขาให้เจ้า 10 เราบอกเจ้าว่า ‘เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า อย่ากราบไหว้พระต่างๆ ของชาวอาโมไรต์ในดินแดนซึ่งเจ้าอาศัยอยู่’ แต่เจ้าก็ไม่ฟังเรา”

11 ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ามานั่งอยู่ใต้ต้นโอ๊กในโอฟราห์ ซึ่งเป็นที่ดินของโยอาชตระกูลอาบีเอเซอร์ กิเดโอนบุตรโยอาชกำลังนวดข้าวสาลีอยู่ในบ่อย่ำองุ่น เพื่อให้พ้นจากสายตาชาวมีเดียน 12 ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าปรากฏแก่กิเดโอนและกล่าวว่า “นักรบผู้เกรียงไกรเอ๋ย องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่าน”

13 กิเดโอนตอบว่า “ท่านขอรับ หากองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพวกข้าพเจ้า ทำไมเหตุการณ์ทั้งปวงนี้จึงเกิดขึ้นกับพวกข้าพเจ้าเล่า? ไหนล่ะการอัศจรรย์ทั้งปวงซึ่งบรรพบุรุษเคยเล่าให้ฟัง พวกเขาพูดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำพวกเราออกมาจากอียิปต์ไม่ใช่หรือ?’ แต่บัดนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงทอดทิ้งพวกเรา และมอบเราไว้ในเงื้อมมือของชาวมีเดียน”

14 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหันมาหาเขาและตรัสว่า “จงไปช่วยอิสราเอลให้พ้นจากเงื้อมมือของชาวมีเดียนด้วยกำลังที่เจ้ามีอยู่ เราใช้เจ้าไปไม่ใช่หรือ?”

15 แต่กิเดโอนทูลถามว่า “พระองค์เจ้าข้า[a] ข้าพระองค์นี่หรือจะไปช่วยกู้อิสราเอล? ตระกูลของข้าพระองค์อ่อนแอที่สุดในเผ่ามนัสเสห์ และข้าพระองค์ก็เป็นผู้เล็กน้อยที่สุดในครอบครัว”

16 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะอยู่กับเจ้า เจ้าจะฟาดฟันชาวมีเดียนทั้งหมด”

17 กิเดโอนทูลตอบว่า “หากพระองค์ทรงโปรด ขอทรงให้หมายสำคัญเพื่อแสดงว่าเป็นพระองค์จริงๆ ที่กำลังตรัสกับข้าพระองค์อยู่ 18 โปรดอย่าเพิ่งเสด็จไปไหนจนกว่าข้าพระองค์จะกลับมาและนำเครื่องบูชามาถวายพระองค์”

และพระองค์ตรัสว่า “เราจะรอจนเจ้ากลับมา”

19 กิเดโอนกลับเข้าไปจัดแจงปรุงลูกแพะตัวหนึ่ง และทำขนมปังไม่ใส่เชื้อจากแป้งประมาณ 22 ลิตร[b] จากนั้นนำเนื้อใส่กระจาดและน้ำแกงใส่หม้อมาถวายทูตองค์นั้นที่ใต้ต้นโอ๊ก

20 ทูตของพระเจ้ากล่าวกับกิเดโอนว่า “จงวางเนื้อและขนมปังไม่ใส่เชื้อไว้บนหินก้อนนี้ และเอาน้ำแกงราด” กิเดโอนก็ปฏิบัติตามคำสั่ง 21 ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ายื่นปลายไม้เท้าแตะเนื้อและขนมปังไม่ใส่เชื้อนั้น ไฟก็ลุกขึ้นจากก้อนหิน เผาเนื้อและขนมปังจนหมด แล้วทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็หายตัวไป 22 เมื่อกิเดโอนตระหนักว่าเป็นทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็ร้องว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต! ข้าพระองค์ได้เห็นทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าต่อหน้าต่อตา!”

23 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับกิเดโอนว่า “จงมีสันติสุขเถิด! อย่ากลัวเลย เจ้าจะไม่ตาย”

24 กิเดโอนจึงสร้างแท่นบูชาขึ้นที่นั่นถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและขนานนามว่า “พระยาห์เวห์ทรงเป็นสันติสุข” แท่นนี้อยู่ที่โอฟราห์ ในที่ดินของตระกูลอาบีเอเซอร์ตราบจนทุกวันนี้

25 ในคืนนั้นเององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งกิเดโอนว่า “จงนำวัวผู้ตัวที่สองอายุเจ็ดปี[c]จากฝูงสัตว์ของบิดาของเจ้ามา และรื้อแท่นบูชาพระบาอัลของบิดาและฟันเสาเจ้าแม่อาเชราห์[d]ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ ด้วย 26 จากนั้นจงสร้างแท่นบูชาที่เหมาะสม[e]สำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าขึ้นบนยอดเนินเขาแห่งนั้น ใช้ไม้ที่ฟันจากเสาเจ้าแม่อาเชราห์ เป็นฟืนเผาวัวผู้ตัวที่สอง[f]เป็นเครื่องเผาบูชา”

27 กิเดโอนจึงพาคนรับใช้สิบคนมาด้วย และทำตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เขาไม่กล้าทำในเวลากลางวันเพราะกลัวสมาชิกในครอบครัวและชาวเมืองนั้น เขาจึงแอบทำในเวลากลางคืน

28 เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อชาวเมืองตื่นขึ้นมาพบว่าแท่นบูชาพระบาอัลถูกรื้อทำลาย เสาเจ้าแม่อาเชราห์ข้างแท่นถูกโค่น และมีวัวผู้ตัวที่สองเผาบูชาบนแท่นที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่!

29 ผู้คนต่างถามกันว่า “ใครทำอย่างนี้?”

เมื่อเขาสืบเสาะอย่างถี่ถ้วนก็ได้รับคำบอกเล่าว่า “กิเดโอนบุตรของโยอาชเป็นคนทำ”

30 คนในเมืองนั้นเรียกร้องกับโยอาชว่า “เอาตัวลูกชายของเจ้าออกมา เขาต้องตายที่บังอาจมารื้อแท่นบูชาของพระบาอัล แล้วยังฟันเสาเจ้าแม่อาเชราห์ทิ้งอีก”

31 แต่โยอาชตอบฝูงชนที่กำลังโกรธแค้นซึ่งห้อมล้อมเขาว่า “พวกท่านจะช่วยออกโรงแทนพระบาอัลหรือ? จะพยายามช่วยพระบาอัลหรืออย่างไร? ใครสู้แทนพระบาอัลจะต้องถูกฆ่าตายภายในเช้าวันนี้! ถ้าบาอัลเป็นเทพเจ้าจริงๆ เขาย่อมดูแลปกป้องตัวเองได้เวลาที่มีคนมารื้อแท่นของเขา” 32 ตั้งแต่วันนั้นมาเขาเรียกกิเดโอนว่าเยรุบบาอัล[g] โดยกล่าวว่า “ให้พระบาอัลต่อสู้กับเขา” เพราะเขาได้ทำลายแท่นบูชาของพระบาอัล

33 ครั้งนั้นบรรดาชาวมีเดียน ชาวอามาเลข และชนชาติอื่นๆ ทางตะวันออก ผนึกกำลังกันยกข้ามแม่น้ำจอร์แดนมาตั้งค่ายอยู่ที่หุบเขายิสเรเอล 34 แล้วพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าลงมาเหนือกิเดโอน เขาก็เป่าแตรเรียกคนตระกูลอาบีเอเซอร์ให้ติดตามเขา 35 เขายังส่งผู้สื่อสารไปทั่วเขตมนัสเสห์ อาเชอร์ เศบูลุน และนัฟทาลีอีกด้วย เพื่อเรียกรวบรวมกำลังพลและพวกเขาก็ตอบรับ

36 กิเดโอนกราบทูลพระเจ้าว่า “หากพระองค์จะทรงใช้ข้าพระองค์กอบกู้อิสราเอลจริงๆ ตามที่ทรงสัญญาไว้ 37 ดูเถิด ข้าพระองค์จะวางขนแกะไว้ที่ลานนวดข้าว หากขนแกะเปียกน้ำค้างแต่พื้นดินแห้ง ข้าพระองค์ก็จะรู้ได้ว่าพระองค์จะทรงกอบกู้อิสราเอลด้วยมือของข้าพระองค์อย่างที่พระองค์ได้ตรัสไว้” 38 แล้วก็เป็นเช่นนั้น วันรุ่งขึ้นเมื่อกิเดโอนตื่นแต่เช้า เขาก็บิดขนแกะมีน้ำค้างไหลออกมาเต็มชาม

39 กิเดโอนจึงกราบทูลพระเจ้าว่า “ขออย่าทรงพระพิโรธเลย ข้าพระองค์จะทูลขออีกครั้งเดียว ขอข้าพระองค์ได้ทดสอบกับขนแกะอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ขอให้ขนแกะแห้ง ส่วนพื้นดินรอบๆ เปียกน้ำค้าง” 40 คืนนั้นพระเจ้าทรงทำตามที่เขาทูลขอ ขนแกะแห้งอยู่ แต่พื้นดินมีน้ำค้างชุ่มไปหมด

Footnotes

  1. 6:15 หรือท่านเจ้าข้า
  2. 6:19 ภาษาฮีบรูว่าหนึ่งเอฟาห์
  3. 6:25 หรือจงนำวัวที่โตเต็มที่
  4. 6:25 คือ สัญลักษณ์ของเจ้าแม่อาเชราห์ เช่นเดียวกับที่อื่นๆ ในพระธรรมผู้วินิจฉัย
  5. 6:26 หรือเอาแผ่นหินมาเรียงซ้อนกันขึ้นเป็นแท่นบูชา
  6. 6:26 หรือที่โตเต็มที่เช่นเดียวกับข้อ 28
  7. 6:32 แปลว่า ให้บาอัลต่อสู้

ชาวมีเดียนบีบบังคับอิสราเอล

ชาวอิสราเอลกระทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าจึงมอบพวกเขาไว้ในมือของชาวมีเดียนเป็นเวลา 7 ปี ชาวมีเดียนมีอำนาจเหนือชาวอิสราเอล แล้วด้วยเหตุนี้ ชาวอิสราเอลจึงทำที่ซ่อนตัวไว้ตามภูเขา ถ้ำ และที่หลบภัย เมื่อใดก็ตามที่ชาวอิสราเอลเพาะปลูก ชาวมีเดียน ชาวอามาเลข และชาวตะวันออกจะเข้ามาบุกรุกพวกเขา เขาเหล่านั้นจะเข้ามาตั้งค่ายเพื่อรุกรานและกวาดเอาพืชผลของแผ่นดินไป ไปไกลจนถึงกาซา และจะไม่มีเครื่องยังชีพเหลือทิ้งไว้ในอิสราเอลแม้แต่แกะ โค หรือลา พวกเขาพากันขึ้นมาพร้อมทั้งฝูงปศุสัตว์และกระโจม มีจำนวนมากราวกับฝูงตั๊กแตน ไม่สามารถนับจำนวนคนและอูฐได้ ฉะนั้นเมื่อบุกรุกดินแดนแล้วก็ทำให้เกิดความเสียหายมาก ชาวอิสราเอลสิ้นเนื้อประดาตัวก็เพราะชาวมีเดียน ดังนั้นชาวอิสราเอลจึงร้องทุกข์ต่อพระผู้เป็นเจ้า

เมื่อชาวอิสราเอลร้องทุกข์ต่อพระผู้เป็นเจ้าเพราะชาวมีเดียน พระผู้เป็นเจ้าจึงให้ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าท่านหนึ่งไปยังชาวอิสราเอล และท่านกล่าวแก่พวกเขาว่า “พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านกล่าวว่า ‘เรานำพวกเจ้าออกมาจากประเทศอียิปต์ และนำเจ้าออกมาจากเรือนทาส และเราให้พวกเจ้าหลุดพ้นจากเงื้อมมือของชาวอียิปต์ และจากเงื้อมมือของทุกคนที่บีบบังคับเจ้า เราได้ขับไล่พวกเขาไปให้พ้นหน้าเจ้า และได้มอบแผ่นดินของพวกเขาแก่เจ้า 10 เราได้บอกพวกเจ้าแล้วว่า “เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า เจ้าจงอย่ากลัวบรรดาเทพเจ้าของชาวอาโมร์ซึ่งอยู่ในแผ่นดินที่เจ้าอาศัยอยู่” แต่เจ้าก็ไม่ได้เชื่อฟังเรา’”

เรียกกิเดโอน

11 ทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้ามานั่งอยู่ที่ใต้ต้นโอ๊กที่เมืองโอฟราห์ ซึ่งเป็นของโยอาชชาวอาบีเอเซอร์ ฝ่ายกิเดโอนบุตรของเขาก็กำลังนวดข้าวสาลีอยู่ที่เครื่องสกัดเหล้าองุ่นเพื่อซ่อนให้พ้นสายตาชาวมีเดียน 12 เมื่อทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าปรากฏแก่กิเดโอนแล้วก็กล่าวว่า “พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่าน โอ นักรบผู้เก่งกล้าเอ๋ย” 13 กิเดโอนจึงพูดกับท่านว่า “ได้โปรดเถิด นายท่าน ถ้าพระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพวกเรา แล้วทำไมเหตุการณ์เหล่านี้จึงได้เกิดขึ้นกับเรา สิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์ที่เหล่าบรรพบุรุษของเราเล่าให้พวกเราฟังนั้นอยู่ที่ไหน ที่เล่าๆ กันว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้นำพวกเราขึ้นมาจากประเทศอียิปต์หรอกหรือ’ แต่เวลานี้พระผู้เป็นเจ้าทอดทิ้งเราเสียแล้ว และได้มอบพวกเราไว้ในมือของชาวมีเดียน” 14 แล้วพระผู้เป็นเจ้าหันไปหาเขาและกล่าวว่า “เจ้าจงไปช่วยอิสราเอลให้พ้นจากเงื้อมมือของชาวมีเดียนด้วยพละกำลังของเจ้า เราใช้เจ้าไปมิใช่หรือ” 15 เขาตอบว่า “พระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดเถิด ข้าพเจ้าจะช่วยอิสราเอลได้อย่างไร ดูเถิด ตระกูลข้าพเจ้าอ่อนแอที่สุดในเผ่ามนัสเสห์ และข้าพเจ้าก็ด้อยที่สุดในครอบครัว” 16 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเขาว่า “แต่เราจะอยู่กับเจ้า เจ้าจะสู้รบกับชาวมีเดียนประหนึ่งว่าเจ้ารบกับคนเพียงคนเดียว” 17 เขาตอบว่า “บัดนี้ ถ้าหากว่าข้าพเจ้าเป็นที่โปรดปรานของพระองค์ โปรดแสดงหมายสำคัญแก่ข้าพเจ้าว่า เป็นพระองค์ที่กล่าวกับข้าพเจ้า 18 โปรดอย่าไปจากที่นี่ จนกว่าข้าพเจ้าจะกลับมาหาพระองค์พร้อมกับนำของถวายมาและมอบไว้ ณ เบื้องหน้าพระองค์” พระองค์กล่าวว่า “เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าเจ้าจะกลับมา”

19 ดังนั้น กิเดโอนจึงเข้าไปในบ้านของตนเพื่อตระเตรียมแพะหนุ่ม 1 ตัวกับขนมปังไร้เชื้อทำจากแป้ง 1 เอฟาห์[a] เขาวางเนื้อแพะลงในตะกร้า ใส่น้ำแกงในหม้อ แล้วนำมาให้พระองค์ที่ใต้ต้นโอ๊ก และมอบให้แด่พระองค์ 20 ทูตสวรรค์ของพระเจ้ากล่าวกับเขาว่า “จงเอาเนื้อและขนมปังไร้เชื้อมาวางไว้บนหินก้อนนี้ แล้วก็ราดด้วยน้ำแกง” เขาก็กระทำตามนั้น 21 แล้วทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าก็ใช้ปลายไม้ที่อยู่ในมือแตะเนื้อและขนมปังไร้เชื้อ ไฟจึงลุกโชนขึ้นจากก้อนหิน ทำให้เนื้อและขนมปังไร้เชื้อไหม้หมด แล้วทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าก็หายร่างไปจากสายตาของเขา 22 กิเดโอนจึงเข้าใจว่า ผู้นั้นเป็นทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้า เขาพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ บัดนี้ข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ต่อหน้า” 23 แต่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเขาว่า “สันติสุขจงอยู่กับเจ้า อย่ากลัวเลย เจ้าจะไม่ตายหรอก” 24 ครั้นแล้วกิเดโอนก็สร้างแท่นบูชาสำหรับพระผู้เป็นเจ้าไว้ที่นั่น และตั้งชื่อว่า พระผู้เป็นเจ้าเป็นสันติสุข ทุกวันนี้แท่นนั้นยังอยู่ที่โอฟราห์ที่เป็นของชาวอาบีเอเซอร์

25 ในคืนนั้น พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเขาว่า “จงเอาโคหนุ่มของบิดาเจ้า กับโคตัวที่สองเป็นโคตัวผู้อายุ 7 ปีไป จงทำลายแท่นบูชาเทวรูปบาอัลที่เป็นของบิดาของเจ้า และโค่นเทวรูปอาเชราห์[b]ที่อยู่ข้างๆ แท่นลง 26 แล้วเจ้าจงสร้างแท่นบูชาแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้าไว้บนที่สูงแห่งนี้อย่างเป็นระเบียบ แล้วจงถวายโคตัวที่สองเป็นสัตว์ที่เผาเป็นของถวายกับเทวรูปไม้อาเชราห์ที่เจ้าโค่นลง” 27 ดังนั้นกิเดโอนจึงให้ผู้รับใช้ชาย 10 คนไป เพื่อปฏิบัติตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้บัญชา แต่เนื่องจากเขากลัวคนในครอบครัวและพวกผู้ชายในเมือง เขาจึงทำในเวลากลางคืนแทนกลางวัน

กิเดโอนทำลายแท่นบูชาเทวรูปบาอัล

28 เมื่อพวกผู้ชายในเมืองลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ ดูเถิด แท่นบูชาเทวรูปบาอัลถูกโค่นลง และเทวรูปอาเชราห์ที่อยู่ข้างๆ ก็ถูกโค่นลง และโคตัวที่สองถูกถวายบนแท่นบูชาที่สร้างไว้ 29 เขาจึงพูดต่อกันและกันว่า “ใครเป็นคนกระทำ” หลังจากที่ได้ถามไถ่ได้ความแล้วก็กล่าวว่า “กิเดโอนบุตรของโยอาชเป็นผู้กระทำ” 30 พวกผู้ชายในเมืองจึงพูดกับโยอาชว่า “พาตัวบุตรชายของท่านออกมาเถิด จะได้ให้เขาตายไป เพราะเขาได้ทำลายแท่นบูชาเทวรูปบาอัลและโค่นเทวรูปอาเชราห์ที่อยู่ข้างๆ” 31 โยอาชพูดกับทุกคนที่ค้านเขาว่า “พวกท่านจะโต้แย้งแทนเทพเจ้าบาอัลหรือ หรือท่านจะช่วยให้รอดได้ ใครก็ตามที่โต้แย้งแทนเทพเจ้าบาอัลจะต้องตายภายในเวลาเช้า หากว่าเขาเป็นเทพเจ้าก็ปล่อยให้เขาโต้แย้งเอง เพราะแท่นบูชาของเขาถูกทำลายลง” 32 ดังนั้นในวันนั้นกิเดโอนได้ชื่อว่า เยรุบบาอัล ความหมายคือ “ปล่อยให้เทพเจ้าบาอัลโต้แย้งกับเขา” เพราะเขาทำลายแท่นบูชาลง

33 ครั้นแล้วพวกชาวมีเดียน ชาวอามาเลข และชาวตะวันออกก็ได้รวมกลุ่มมาด้วยกัน ข้ามแม่น้ำจอร์แดนและตั้งค่ายอยู่ในหุบเขายิสเรเอล 34 แต่พระวิญญาณพระผู้เป็นเจ้าสถิตกับกิเดโอน เขาเป่าแตรงอนเรียกชาวอาบีเอเซอร์ออกมาเพื่อติดตามเขาไป 35 และเขาให้ผู้ส่งข่าวทั้งหลายไปบอกทั่วมนัสเสห์เพื่อเรียกให้มาติดตามเขาไปด้วย เขาให้ผู้ส่งข่าวทั้งหลายไปยังอาเชอร์ เศบูลุน และนัฟทาลี ดังนั้นเขาเหล่านั้นจึงขึ้นไปโจมตีชาวมีเดียน

หมายสำคัญของขนแกะ

36 กิเดโอนพูดกับพระเจ้าว่า “ถ้าพระองค์จะช่วยอิสราเอลให้รอดปลอดภัยด้วยมือข้าพเจ้า ตามที่พระองค์กล่าวไว้แล้ว 37 ดูเถิด ข้าพเจ้าจะวางขนแกะไว้บนลานนวดข้าว ถ้ามีน้ำค้างเฉพาะที่ขนแกะเท่านั้น ขณะที่พื้นดินทั่วไปยังแห้ง ข้าพเจ้าก็จะได้ทราบว่าพระองค์จะช่วยอิสราเอลให้รอดปลอดภัยด้วยมือข้าพเจ้า ตามที่พระองค์กล่าวไว้” 38 แล้วก็เป็นไปตามนั้นคือ เมื่อเขาลุกขึ้นในยามเช้าวันรุ่งขึ้น และบีบขนแกะ เขาบีบได้น้ำค้างจากขนแกะเต็ม 1 ชาม 39 กิเดโอนพูดกับพระเจ้าว่า “พระองค์กรุณาอย่าโกรธข้าพเจ้า ให้ข้าพเจ้าพูดอีกเพียงครั้งเดียว โปรดให้ข้าพเจ้าทดสอบขนแกะดูอีกครั้งเถิด โปรดให้เฉพาะขนแกะเท่านั้นที่แห้ง ขณะที่พื้นดินทั่วไปมีน้ำค้างอยู่” 40 แล้วในคืนนั้นพระเจ้าก็กระทำไปตามนั้นคือ ขนแกะเท่านั้นที่แห้ง และมีน้ำค้างอยู่บนพื้นดินทั่วไปรอบๆ

Footnotes

  1. 6:19 1 เอฟาห์ มีประมาณ 22 ลิตร
  2. 6:25 นางเป็นเทพเจ้าของชาวคานาอัน นางคู่กันกับเทพเจ้าบาอัล ชาวคานาอันเชื่อว่า นางสามารถปรับสภาพลมฟ้าอากาศ และให้ความอุดมสมบูรณ์แก่มนุษย์และสัตว์