(สดด.71:1-3)

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด)

31 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ลี้ภัยในพระองค์
ขออย่าให้ข้าพระองค์อับอายเลย
ขอทรงกอบกู้ข้าพระองค์ในความชอบธรรมของพระองค์
ขอทรงเอียงพระกรรณสดับฟัง
และเสด็จมาช่วยข้าพระองค์โดยเร็ว
ขอทรงเป็นศิลาให้ข้าพระองค์เข้าลี้ภัย
และเป็นป้อมปราการมั่นคงเพื่อช่วยข้าพระองค์ให้ปลอดภัย
เพราะพระองค์ทรงเป็นศิลาและเป็นป้อมปราการของข้าพระองค์
ฉะนั้นขอทรงนำและชี้ทางแก่ข้าพระองค์ โดยเห็นแก่พระนามของพระองค์
ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากกับดักที่ดักข้าพระองค์ไว้
เพราะพระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์
ข้าพระองค์มอบจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงซื่อสัตย์ ขอทรงไถ่ข้าพระองค์เถิด

ข้าพระองค์เกลียดชังผู้ที่ยึดมั่นในรูปเคารพอันไร้ค่า
ข้าพระองค์วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า
ข้าพระองค์จะเปรมปรีดิ์และชื่นชมยินดีในความรักมั่นคงของพระองค์
เพราะพระองค์ทรงเห็นความทุกข์ลำเค็ญของข้าพระองค์
และทรงทราบความเจ็บปวดรวดร้าวในจิตใจของข้าพระองค์แล้ว
พระองค์ไม่ได้ทรงมอบข้าพระองค์ไว้ในมือศัตรู
แต่ทรงวางย่างเท้าของข้าพระองค์ไว้ในที่กว้างขวาง

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงเมตตาข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์กำลังทุกข์ใจ
ดวงตาของข้าพระองค์หม่นหมองเพราะความทุกข์โศก
ทั้งกายและวิญญาณบอบช้ำเพราะความทุกข์ระทม
10 ชีวิตของข้าพระองค์สูญไปกับความปวดร้าว
และปีเดือนของข้าพระองค์สูญไปกับการคร่ำครวญ
กำลังวังชาของข้าพระองค์อ่อนลงเพราะความทุกข์ลำเค็ญ[a]ของข้าพระองค์
กระดูกของข้าพระองค์ก็เสื่อมไป
11 เนื่องจากศัตรูทั้งปวงของข้าพระองค์
ข้าพระองค์ตกเป็นขี้ปากให้เพื่อนบ้านเย้ยหยัน
ข้าพระองค์เป็นที่น่าขยาดสำหรับเพื่อนฝูง
คนที่พบเห็นข้าพระองค์บนถนนก็รีบหนีไป
12 ข้าพระองค์ถูกลืมประหนึ่งคนที่ตายแล้ว
ข้าพระองค์กลายเป็นเหมือนภาชนะที่แตก
13 ข้าพระองค์ได้ยินคำนินทาว่าร้ายจากหลายฝ่าย
มีความหวาดผวาอยู่รอบด้าน
พวกเขาคบคิดกันเล่นงานข้าพระองค์
หมายเอาชีวิตของข้าพระองค์

14 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ข้าพระองค์วางใจในพระองค์
ข้าพระองค์กล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์”
15 วันเวลาของข้าพระองค์อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์
ขอทรงปลดปล่อยข้าพระองค์จากมือของเหล่าศัตรู
จากบรรดาผู้ที่ตามล่าเอาชีวิตของข้าพระองค์
16 ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสงเหนือ ผู้รับใช้ของพระองค์
โปรดช่วยข้าพระองค์ให้รอดโดยความรักมั่นคงของพระองค์
17 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขออย่าให้ข้าพระองค์ได้อาย
เพราะข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์
แต่ขอให้คนชั่วได้รับความอดสู
ขอให้เขานอนนิ่งเงียบในหลุมฝังศพ
18 ขอให้ริมฝีปากโป้ปดของเขาต้องนิ่งเงียบ
เพราะด้วยความเย่อหยิ่งและการดูหมิ่นดูแคลน
เขาพูดว่าร้ายคนชอบธรรมอย่างยโสโอหัง

19 ความประเสริฐของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่สักเท่าใด
ที่พระองค์ทรงสะสมไว้เพื่อเหล่าผู้ยำเกรงพระองค์
ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้ต่อหน้าคนทั้งหลาย
เพื่อผู้ที่ลี้ภัยในพระองค์
20 ในร่มเงาที่พระองค์ทรงสถิตอยู่ พระองค์ทรงซ่อนเขาไว้
ให้พ้นจากการปองร้ายของมนุษย์
ในที่ประทับของพระองค์ พระองค์ทรงรักษาเขาไว้
ให้พ้นจากคำกล่าวหาทั้งปวง

21 ขอถวายสรรเสริญแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
เพราะพระองค์ทรงแสดงความรักอันอัศจรรย์ต่อข้าพระองค์
เมื่อข้าพระองค์อยู่ในเมืองที่ถูกล้อมไว้
22 ในยามตกใจ ข้าพระองค์กล่าวว่า
“ข้าพระองค์ถูกตัดออกจากสายพระเนตรของพระองค์!”
แต่พระองค์ทรงสดับฟังคำทูลขอพระเมตตาของข้าพระองค์
เมื่อข้าพระองค์ร้องทูลให้ทรงช่วย

23 ประชากรทั้งสิ้นของพระเจ้าเอ๋ย จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปกป้องรักษาผู้ที่ซื่อสัตย์
แต่ผู้ที่เย่อหยิ่งอวดดี พระองค์ทรงลงโทษอย่างเต็มที่
24 จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
ท่านทั้งหลายที่ฝากความหวังในองค์พระผู้เป็นเจ้า

Footnotes

  1. 31:10 หรือความผิด

วอนขอและวางใจในพระเจ้า

ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีของดาวิด

โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้ามีพระองค์เป็นที่พึ่งพิง
    อย่าให้ข้าพเจ้าต้องอับอายเลย
พระองค์เป็นผู้มีความชอบธรรม
    โปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นภัยเถิด
เงี่ยหูฟังข้าพเจ้า
    ช่วยข้าพเจ้าให้ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด
โปรดเป็นศิลาที่พึ่งพิงแก่ข้าพเจ้า
    เป็นป้อมปราการอันแข็งแกร่งเพื่อช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
เพราะพระองค์เป็นศิลาและป้อมปราการของข้าพเจ้าอย่างแท้จริง
    เพื่อพระนามของพระองค์ โปรดนำทางและชี้แนะข้าพเจ้า
ให้ข้าพเจ้าหลุดออกจากตาข่ายพรางที่มีไว้ดักข้าพเจ้า
    เพราะพระองค์เป็นที่พึ่งพิงของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าขอฝากวิญญาณของข้าพเจ้าไว้ในมือของพระองค์ด้วย[a]
    พระองค์ได้ไถ่ข้าพเจ้า โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้สัตย์จริง

ข้าพเจ้าเกลียดผู้ที่ฝักใฝ่ในรูปปั้นไร้ค่า
    และข้าพเจ้าวางใจในพระผู้เป็นเจ้า
ข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีและดีใจในความรักอันมั่นคงของพระองค์
    เพราะพระองค์เห็นความทุกข์ทรมานของข้าพเจ้า
    และพระองค์ทราบถึงความทุกข์ยากในชีวิตของข้าพเจ้า
พระองค์ไม่ปล่อยให้ข้าพเจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู
    และช่วยให้เท้าของข้าพเจ้าพ้นจากบ่วงอันตราย

โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดเมตตาข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ามีความทุกข์
    ความระทมใจทำให้ดวงตาข้าพเจ้าช้ำชอก
    จิตวิญญาณและร่างกายข้าพเจ้าก็เช่นกัน
10 ด้วยว่าชีวิตข้าพเจ้าเต็มด้วยความเศร้า
    และวิตกกังวลอยู่นานหลายปี
พละกำลังของข้าพเจ้าอ่อนล้าเพราะบาปของข้าพเจ้า
    และกระดูกก็กร่อนลง
11 ข้าพเจ้าเป็นที่ดูหมิ่นของศัตรูทั้งปวง
    เป็นที่หวาดกลัวในหมู่เพื่อนบ้านข้าพเจ้า
บรรดาคนที่รู้จักก็หวาดกลัวในตัวข้าพเจ้า
    ใครๆ ที่เห็นข้าพเจ้าตามถนนหนทางก็พากันวิ่งหนี
12 พวกเขาลืมข้าพเจ้าเหมือนกับว่าข้าพเจ้าได้ตายจากไปเสียแล้ว
    ข้าพเจ้าได้กลายเป็นเสมือนภาชนะที่แตกหักแล้ว
13 ด้วยว่าข้าพเจ้าได้ยินหลายคนกระซิบว่าร้าย
    มีสิ่งน่ากลัวรอบข้าง
ในขณะที่พวกเขาคบคิดกันต่อต้านข้าพเจ้า
    ขณะที่เขาวางแผนเพื่อเอาชีวิตข้าพเจ้าไป

14 แต่ข้าพเจ้าวางใจในพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า
    ข้าพเจ้าพูดได้ว่า “พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า”
15 ชีวิตข้าพเจ้าอยู่ในมือของพระองค์
    โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากมือของศัตรูและผู้กดขี่ข่มเหง
16 โปรดหันมา ให้แสงอันรุ่งโรจน์ของพระองค์อยู่เหนือผู้รับใช้ของพระองค์
    พระองค์ผู้มีความรักอันมั่นคง โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นด้วยเถิด
17 โอ พระผู้เป็นเจ้า อย่าปล่อยให้ข้าพเจ้าต้องอับอาย
    เพราะว่าข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระองค์
ปล่อยให้คนชั่วอับอาย
    ให้พวกเขาถูกเหวี่ยงลงในแดนคนตายอันเงียบสงัด
18 ปิดปากคนพูดเท็จที่หยิ่งยโส
    ซึ่งสบประมาทด้วยถ้อยคำ
    ดูหมิ่นผู้มีความชอบธรรม

19 พระองค์เตรียมความกรุณา
    ที่มีอยู่มากมายไว้สำหรับคนที่เกรงกลัวพระองค์
และประทานแก่คนที่มีพระองค์เป็นที่พึ่ง
    ต่อหน้าบรรดาบุตรของมนุษย์
20 ในที่ซึ่งมีพระองค์อยู่ด้วย พวกเขาย่อมปลอดภัย
    จากกลอุบายของมนุษย์
พระองค์ช่วยพวกเขาให้ปลอดภัยในพลับพลาของพระองค์
    ให้พ้นจากลิ้นอันธพาล

21 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
    ด้วยว่า พระองค์ได้แสดงความรักอันมั่นคงต่อข้าพเจ้าอย่างวิเศษยิ่ง
    เวลาข้าพเจ้าอยู่ในเมืองที่ถูกล้อมไว้
22 เมื่อข้าพเจ้าตกใจ ก็ได้พลั้งปากออกไปว่า
    “ข้าพเจ้าไม่อยู่ในสายตาของพระองค์”
ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังได้ยินเสียงร้องขอความเมตตา
    ในเวลาที่ข้าพเจ้าร้องเรียกให้พระองค์ช่วยเหลือ

23 บรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระองค์เอ๋ย จงรักพระผู้เป็นเจ้า
    พระผู้เป็นเจ้าปกปักรักษาผู้มีความภักดี
    ส่วนคนหยิ่งยโส พระองค์จะสนองตอบตามที่เขาควรได้รับ
24 พวกท่านทุกคนที่รอคอยพระผู้เป็นเจ้า
    จงเข้มแข็งและมีใจกล้าหาญเถิด

พระยาห์เวห์เป็นที่ลี้ภัย

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าลี้ภัยในพระองค์
    โปรดอย่าทำให้ข้าพเจ้าต้องอับอายเลย
    โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเพราะพระองค์ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
โปรดเงี่ยหูของพระองค์ฟังข้าพเจ้า
    รีบมาช่วยกู้ข้าพเจ้าด้วย
ขอเป็นป้อมปราการบนภูผาแก่ข้าพเจ้า
    เป็นวังที่เป็นป้อมปราการ ขอปกป้องข้าพเจ้า

เพราะพระองค์ คือหินกำบังและป้อมปราการของข้าพเจ้า
    โปรดนำทาง พาข้าพเจ้าไปด้วยเถิด เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงอันดีของพระองค์
โปรดดึงข้าพเจ้าออกจากตาข่ายที่พวกเขาซ่อนไว้ดักข้าพเจ้า
    เพราะพระองค์เป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าขอมอบจิตวิญญาณนี้ไว้ในมือของพระองค์
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดไถ่ข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าที่สัตย์ซื่อ

ข้าพเจ้าเกลียดชังคนเหล่านั้นที่รับใช้พวกรูปเคารพที่ไร้ค่า
    ข้าพเจ้าไว้วางใจในพระยาห์เวห์
ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีและเฉลิมฉลองความรักมั่นคงของพระองค์
    เพราะพระองค์สังเกตเห็นถึงความทุกข์ยากของข้าพเจ้า
    และรู้ถึงปัญหาที่รุมเร้าชีวิตของข้าพเจ้าอยู่นี้
พระองค์ไม่ได้มอบข้าพเจ้าให้ไปอยู่ในกำมือของศัตรู
    พระองค์นำข้าพเจ้าออกมาเป็นอิสระ[a]

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าตกอยู่ในความทุกข์ ดังนั้น โปรดเมตตากรุณาต่อข้าพเจ้าด้วย
    ข้าพเจ้าเศร้าโศกมาก ร้องไห้จนเจ็บไปหมด
    ทั้งตา คอ และท้อง
10 ชีวิตของข้าพเจ้าเกือบจะจบลงแล้ว ตอนนี้มีแต่ความโศกเศร้า
    วันปีของข้าพเจ้ากำลังจะจบลงแล้ว ตอนนี้มีแต่การคร่ำครวญ
ความทุกข์ยาก[b] กำลังกัดกร่อนพละกำลังของข้าพเจ้า
    กระดูกของข้าพเจ้าเจ็บปวดไปหมดแล้ว

11 พวกศัตรูต่างดูถูกข้าพเจ้ารวมทั้งพวกเพื่อนบ้านด้วย
    เมื่อเพื่อนฝูงเห็นสภาพของข้าพเจ้าต่างพากันกลัวที่จะเข้าใกล้
เมื่อคนเห็นข้าพเจ้าตามท้องถนน
    พวกเขาต่างพากันหลีกหนี
12 ผู้คนพากันหลงลืมข้าพเจ้าเหมือนกับว่าข้าพเจ้าตายไปแล้ว
    หรือเป็นของที่สูญหายไปแล้ว
13 ข้าพเจ้าได้ยินคนจำนวนมากใส่ร้ายป้ายสีข้าพเจ้า
    รอบด้านของข้าพเจ้ามีแต่เรื่องน่ากลัว
พวกเขามารวมหัวกันวางแผนทำร้ายข้าพเจ้า
    พวกเขาวางแผนจะเอาชีวิตของข้าพเจ้า

14 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ส่วนข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าไว้วางใจในพระองค์
    ข้าพเจ้าพูดว่า “พระองค์คือพระเจ้าของข้าพเจ้า”
15 วันเวลาของข้าพเจ้าอยู่ในกำมือของพระองค์
    ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากพวกศัตรูและคนพวกนั้นที่ตามล่าข้าพเจ้าด้วยเถิด
16 ขอให้ใบหน้าของพระองค์ส่องประกายลงบนผู้รับใช้ของพระองค์
    เพราะความรักมั่นคงที่พระองค์มีต่อข้าพเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเถิด
17 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
    ขออย่าให้ข้าพเจ้าต้องอับอาย
แต่ขอให้พวกคนชั่วเหล่านั้นต้องอับอาย
    ขอให้พวกเขาร้องคร่ำครวญ[c] ไปตลอดทางสู่แดนคนตาย
18 ขอให้คนโกหกพวกนั้นเป็นใบ้เสีย
    คือคนพวกนั้น ที่เย่อหยิ่งจองหอง คนที่มุ่งร้าย และคนที่คอยพูดใส่ร้ายคนดี

19 แต่พระองค์ได้ตุนสิ่งดีๆไว้มากมายสำหรับคนที่ยำเกรงพระองค์
    พระองค์ทำหลายสิ่งหลายอย่างต่อหน้าต่อตามนุษย์ทั้งหลาย
    เพื่อช่วยคนเหล่านั้นที่มาลี้ภัยในพระองค์
20 พระองค์ซ่อนคนดีๆพวกนี้ไว้กับพระองค์
    เพื่อให้พ้นจากคนเหล่านั้นที่ปองร้ายพวกเขา
พระองค์ซ่อนพวกเขาไว้ในที่กำบังของพระองค์
    เพื่อให้รอดพ้นจากลิ้นที่ใส่ร้ายพวกเขา

21 สรรเสริญพระยาห์เวห์
    เพราะพระองค์แสดงความรักมั่นคงที่แสนอัศจรรย์
    ที่ปกป้องข้าพเจ้าเมื่อข้าพเจ้าถูกโจมตี[d]
22 ข้าพเจ้ากลัว ข้าพเจ้าเลยพูดว่า
    “ข้าพเจ้าถูกตัดออกไปจากสายตาของพระองค์”[e]
    แต่พระองค์ได้ยินคำร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าร้องเรียกพระองค์

23 ท่านทั้งหลายที่จงรักภักดีต่อพระองค์ ให้รักพระยาห์เวห์เถิด
    พระยาห์เวห์คุ้มครองคนทั้งหลายที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
    พระองค์จะตอบแทนคนที่เย่อหยิ่งจองหองอย่างทบดอกทบต้น
24 ดังนั้น ท่านทั้งหลายที่ฝากความหวังไว้กับพระยาห์เวห์
    ให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้เถิด

Footnotes

  1. 31:8 พระองค์นำข้าพเจ้าออกมาเป็นอิสระ หรือแปลตรงๆได้ว่า “พระองค์วางเท้าทั้งสองของข้าพเจ้าบนที่กว้าง”
  2. 31:10 ความทุกข์ยาก หรือแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า “ความผิดบาป”
  3. 31:17 ร้องคร่ำครวญ หรือ แปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า “เงียบกริบ”
  4. 31:21 เมื่อข้าพเจ้าถูกโจมตี แปลตรงๆได้ว่า “ในเมืองที่ถูกปิดล้อม”
  5. 31:22 ถูกตัดออกไปจากสายตาของพระองค์ อาจจะหมายถึง “ถูกขัดขวางไม่ให้เข้าไปนมัสการพระเจ้าในวิหาร”