ปีสะบาโต

25 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสบนภูเขาซีนายว่า “จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘เมื่อเจ้าทั้งหลายเข้าสู่ดินแดนซึ่งเราจะยกให้เจ้า ดินแดนนั้นจะต้องถือสะบาโตแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เจ้าอาจจะหว่าน ลิดแขนงองุ่น หรือเก็บเกี่ยวพืชผลเป็นเวลาหกปี แต่ปีที่เจ็ดเป็นสะบาโตถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นสะบาโตแห่งการหยุดพักสำหรับแผ่นดิน อย่าไถหว่านที่ดิน หรือลิดแขนงสวนองุ่นของเจ้า อย่าเก็บเกี่ยวพืชผลใดๆ ซึ่งงอกขึ้นเอง และอย่าเก็บองุ่นซึ่งขึ้นเองตามแขนงที่เจ้าไม่ได้ลิด จงให้เป็นปีแห่งการหยุดพักสำหรับแผ่นดิน พืชผลใดซึ่งงอกขึ้นในปีสะบาโตนั้นจะเป็นอาหารสำหรับเจ้าทุกคน ทั้งตัวเจ้าเอง ข้าทาสชายหญิง ลูกจ้าง หรือคนที่มาพักอาศัยชั่วคราวท่ามกลางเจ้า ฝูงสัตว์และสัตว์ป่าในที่ดินของเจ้าก็เช่นกัน สามารถกินพืชผลที่งอกขึ้นนั้นได้

ปีกึ่งศตวรรษ(A)

“ ‘ทุกปีที่ห้าสิบ หลังจากปีสะบาโตผ่านไปเจ็ดครั้ง นั่นคือเป็นเวลา 49 ปี ในวันลบบาปคือวันที่สิบของเดือนที่เจ็ด จงเป่าแตรให้ดังทั่วทั้งแผ่นดินของเจ้า 10 จงถือรักษาปีกึ่งศตวรรษเป็นปีบริสุทธิ์ และประกาศอิสรภาพทั่วดินแดนแก่พลเมืองทุกคน เป็นปีเฉลิมฉลองพิเศษสำหรับเจ้า เจ้าแต่ละคนจงกลับสู่ที่ดินกรรมสิทธิ์ของครอบครัว และกลับสู่วงศ์ตระกูลของตน 11 ปีกึ่งศตวรรษเป็นวาระพิเศษสำหรับเจ้า อย่าหว่านและอย่าเก็บเกี่ยวสิ่งที่งอกขึ้นเอง หรืออย่าเก็บผลองุ่นที่ขึ้นเอง 12 เพราะเป็นปีเฉลิมฉลองพิเศษ และเป็นปีบริสุทธิ์สำหรับเจ้า จงกินแต่พืชผลที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

13 “ ‘ในปีกึ่งศตวรรษนี้ ทุกคนจงกลับสู่ที่ดินอันเป็นกรรมสิทธิ์ดั้งเดิมของตน

14 “ ‘หากเจ้าซื้อขายที่ดินกับพี่น้องร่วมชาติ อย่าเอารัดเอาเปรียบกัน 15 เจ้าจงซื้อที่ดินจากพี่น้องร่วมชาติโดยคำนวณราคาตามจำนวนปีนับจากปีกึ่งศตวรรษ เขาจะต้องขายให้เจ้าในราคาตามจำนวนปีที่เหลือสำหรับการเก็บเกี่ยวพืชผล 16 หากยังเหลืออีกหลายปี เจ้าจงเพิ่มราคา หากเหลือไม่กี่ปี จงลดราคา เพราะที่จริงแล้วสิ่งที่เขาขายให้เจ้าคือจำนวนพืชผลที่จะได้ 17 อย่าเอารัดเอาเปรียบกัน จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

18 “ ‘จงทำตามกฎหมายของเรา จงใส่ใจที่จะเชื่อฟังและปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา แล้วเจ้าจะดำเนินชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยในดินแดนนั้น 19 แล้วแผ่นดินจะให้พืชผลแก่เจ้า เจ้าจะอิ่มหนำสำราญและอยู่อย่างปลอดภัยในที่แห่งนั้น 20 เจ้าอาจถามว่า “แล้วพวกเราจะกินอะไรในปีที่เจ็ด หากเราไม่ปลูกและเก็บเกี่ยวพืชผลของเรา?” 21 เราจะอวยพรเจ้าในปีที่หก จนแผ่นดินให้พืชผลมากพอสำหรับสามปี 22 ขณะที่เจ้าปลูกในช่วงปีที่แปด เจ้าจะยังกินพืชผลเก่านั้นต่อไปจนกระทั่งถึงฤดูเก็บเกี่ยวของปีที่เก้า

23 “ ‘ที่ดินจะขายขาดไม่ได้เพราะแผ่นดินเป็นของเรา พวกเจ้าเป็นเพียงคนต่างด้าวและผู้เช่าอาศัยทำกินจากเรา 24 ทั่วแดนที่เจ้าถือครองเป็นกรรมสิทธิ์ จงให้มีการไถ่ถอนที่ดินคืนได้

25 “ ‘หากพี่น้องร่วมชาติของเจ้ายากจนและขายที่ดินบางส่วนไป ญาติสนิทที่สุดของคนนั้นอาจจะมาไถ่คืนได้ 26 หากไม่มีคนอื่นมาไถ่คืนให้เขา แต่ตัวคนนั้นเองร่ำรวยขึ้น มีเงินพอที่จะไถ่ 27 เขาสามารถมาซื้อคืนในราคาซึ่งได้สัดส่วนกับจำนวนพืชผลจากวันที่ขายที่ดิน เจ้าของใหม่จะต้องยอมรับเงินจำนวนนั้นและคืนที่ดินให้ 28 แต่หากเจ้าของเดิมไม่สามารถซื้อคืน ก็จะตกเป็นของเจ้าของคนใหม่จนถึงปีกึ่งศตวรรษซึ่งจะต้องคืนให้เจ้าของเดิมอีกครั้ง

29 “ ‘ผู้ใดขายบ้านในเขตกำแพงเมือง เขามีสิทธิ์ซื้อคืนอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาหนึ่งปีแรก 30 หากไม่ได้ซื้อคืนภายในหนึ่งปี บ้านที่อยู่ในกำแพงเมืองหลังนั้นจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของคนใหม่และลูกหลานของเขาอย่างถาวร ไม่ต้องคืนให้เจ้าของเดิมในปีกึ่งศตวรรษ 31 ส่วนบ้านซึ่งอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีกำแพงเมืองล้อมรอบ จะเป็นเหมือนที่ดินโล่งคือซื้อคืนได้ทุกโอกาส และจะต้องคืนให้เจ้าของเดิมในปีกึ่งศตวรรษ

32 “ ‘คนเลวีมีสิทธิ์ที่จะไถ่บ้านของพวกเขาในเมืองของคนเลวีซึ่งเขาเป็นเจ้าของได้เสมอ 33 ดังนั้นทรัพย์สินของคนเลวี นั่นคือบ้านหลังใดที่ขายในเมืองใดก็ตามที่พวกเขาถือกรรมสิทธิ์ สามารถไถ่ถอนได้ และจะต้องคืนให้กับเจ้าของเดิมในปีกึ่งศตวรรษ เพราะบ้านทั้งหลายในเมืองต่างๆ ของคนเลวีเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาท่ามกลางคนอิสราเอล 34 แต่ห้ามขายที่ดินที่เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของเมืองนั้น เพราะเป็นกรรมสิทธิ์ถาวรของพวกเขา

35 “ ‘หากพี่น้องร่วมชาติของเจ้ายากจนลง ไม่สามารถหาเลี้ยงชีพได้ เจ้าจงช่วยเหลือเขาเหมือนที่เอื้อเฟื้อแก่คนต่างด้าวหรือผู้ที่อาศัยอยู่กับเจ้าชั่วคราว เพื่อเขาจะอยู่ท่ามกลางพวกเจ้าต่อไปได้ 36 อย่าคิดดอกเบี้ยใดๆ[a]จากเขา แต่จงยำเกรงพระเจ้า เพื่อพี่น้องนั้นจะคงอยู่ท่ามกลางเจ้าได้ 37 อย่าคิดดอกเบี้ยจากเงินที่ให้เขายืม หรือค้ากำไรจากการขายอาหารแก่เขา 38 เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์เพื่อยกดินแดนคานาอันให้แก่เจ้า และเพื่อเป็นพระเจ้าของเจ้า

39 “ ‘หากพี่น้องร่วมชาติของเจ้ายากจนและขายตัวเองให้เจ้า อย่าใช้งานเขาเยี่ยงทาส 40 แต่จงปฏิบัติต่อเขาเสมือนลูกจ้าง หรือผู้ที่มาอาศัยชั่วคราวท่ามกลางเจ้า และเขาจะปรนนิบัติรับใช้เจ้าจนถึงปีกึ่งศตวรรษ 41 เมื่อนั้นเขาและลูกๆ จะต้องได้รับการปลดปล่อยให้เป็นไทและกลับไปสู่วงศ์ตระกูลและที่ดินของบรรพบุรุษ 42 เพราะชนอิสราเอลเป็นผู้รับใช้ของเรา ซึ่งเรานำออกมาจากอียิปต์ เขาต้องไม่ถูกขายเป็นทาส 43 อย่าปกครองเขาอย่างทารุณอำมหิต แต่จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า

44 “ ‘ทาสชายหญิงของเจ้าจะต้องมาจากชนชาติต่างๆ รอบๆ เจ้า เจ้าอาจซื้อทาสจากพวกเขา 45 และเจ้าอาจซื้อคนที่มาขออาศัยอยู่ชั่วคราวท่ามกลางเจ้าบางคน และสมาชิกในตระกูลของเขาที่เกิดในดินแดนของเจ้า และพวกเขาจะเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า 46 เจ้าจะยกพวกเขาให้เป็นมรดกสืบทอดไปยังลูกหลานหรือเป็นทาสชั่วชีวิตก็ได้ แต่ห้ามเจ้าปกครองพี่น้องร่วมชาติอิสราเอลอย่างทารุณโหดร้าย

47 “ ‘หากคนต่างด้าวหรือผู้มาอาศัยอยู่ชั่วคราวในหมู่พวกเจ้าร่ำรวยขึ้น แล้วมีชาวอิสราเอลพี่น้องร่วมชาติของเจ้าที่ยากจน และขายตัวเองเป็นทาสของคนต่างด้าวคนนั้นหรือของเครือญาติของเขา 48 เขามีสิทธิ์ไถ่ถอนตัวหลังจากขายตัวเป็นทาส ให้ญาติของเขาไถ่ตัวเขาคืนมา 49 จะเป็นลุง น้า อา ลูกพี่ลูกน้อง หรือใครก็ได้ซึ่งเป็นญาติตามสายเลือดในตระกูลของเขา หรือคนนั้นอาจจะไถ่ตัวเองเป็นไทเมื่อร่ำรวยมีเงินพอ 50 ตัวเขาและผู้ที่ซื้อเขาไปจะต้องนับเวลาจากปีที่เขาขายตัวเองเป็นทาสไปจนถึงปีกึ่งศตวรรษ ราคาที่จะไถ่ตัวเขาจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของอัตราค่าจ้างคนงานตามจำนวนปีเหล่านั้น 51 หากยังมีอีกหลายปีกว่าจะถึงปีกึ่งศตวรรษ เขาจะต้องจ่ายเกือบเท่าจำนวนค่าตัวเมื่อเริ่มเป็นทาส 52 หากอีกไม่กี่ปีก็ถึงปีกึ่งศตวรรษ เขาจะต้องคำนวนและจ่ายค่าไถ่ถอนตามจำนวนปีที่เหลือนั้น 53 ผู้ที่ซื้อตัวเขาไปจะต้องปฏิบัติต่อเขาเสมือนลูกจ้างรายปี เจ้าต้องดูแลไม่ให้เจ้าของปกครองเขาอย่างทารุณโหดร้าย

54 “ ‘หากเขายังไม่ได้รับการไถ่ตัวโดยวิธีเหล่านี้เขาและลูกหลานจะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระเมื่อถึงปีกึ่งศตวรรษ 55 เพราะประชากรอิสราเอลเป็นผู้รับใช้ของเรา พวกเขาเป็นผู้รับใช้ที่เรานำออกมาจากอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

Footnotes

  1. 25:36 หรือคิดดอกเบี้ยสูงเกินไปเหมือนกับข้อ 37

ปีสะบาโต

25 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสที่ภูเขาซีนายว่า “จงบอกชาวอิสราเอลว่า ‘เมื่อพวกเจ้าก้าวเข้าไปยังแผ่นดินที่เรามอบให้แก่เจ้า เจ้าจะต้องรักษาปีสะบาโตไว้สำหรับพระผู้เป็นเจ้า เจ้าจะหว่านนาได้ 6 ปี และจะตัดแต่งสวนองุ่นได้ 6 ปี และเก็บเกี่ยวผลของมัน แต่ปีที่เจ็ดควรเป็นปีสะบาโตให้แผ่นดินได้หยุดพักอย่างแท้จริง เป็นปีสะบาโตสำหรับพระผู้เป็นเจ้า เจ้าจงอย่าหว่านนาหรือตัดแต่งสวนองุ่น เมล็ดที่งอกขึ้นเองก็อย่าเก็บเกี่ยว ผลองุ่นจากเถาที่ไม่ได้ตัดแต่งก็อย่าเก็บ จงให้เป็นปีแห่งการหยุดพักอย่างแท้จริงสำหรับแผ่นดิน พวกเจ้าจะมีอาหารในปีสะบาโต สำหรับตนเอง สำหรับทาสชายและหญิง สำหรับผู้รับจ้าง และชาวต่างด้าวที่อาศัยอยู่กับเจ้า รวมทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่าที่อยู่ในแผ่นดินของเจ้าก็จะมีพืชผลทั้งหมดเป็นอาหาร

วาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ

และเจ้าจงนับจำนวนปีสะบาโต 7 ครั้ง เป็นเจ็ดคูณเจ็ดปี รวมเวลาได้ 49 ปี จากนั้นเจ้าก็จงเป่าแตรงอนให้ดังทั่วไปในวันที่สิบเดือนเจ็ด ในวันทำพิธีชดใช้บาปเจ้าจงเป่าแตรงอนไปให้ทั่วแผ่นดินของพวกเจ้า 10 พวกเจ้าจงให้ปีที่ห้าสิบเป็นปีบริสุทธิ์ และประกาศอิสรภาพให้แก่ผู้อยู่อาศัยทุกคนทั่วแผ่นดิน เจ้าจงฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ พวกเจ้าแต่ละคนจะได้ที่ดินของตนคืนหรือกลับไปหาครอบครัวของตน 11 พวกเจ้าจะใช้ปีที่ห้าสิบเป็นปีฉลองครบรอบ เจ้าต้องไม่หว่านหรือเก็บเกี่ยวสิ่งที่งอกขึ้นเอง หรือเก็บผลจากต้นองุ่นที่ไม่ได้ตัดแต่ง 12 เพราะเป็นวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ จึงต้องเป็นวาระบริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า เจ้าต้องรับประทานสิ่งที่ได้มาจากไร่นาโดยตรง

13 ในปีแห่งการฉลองครบรอบ 50 ปีนี้เจ้าแต่ละคนจะได้ที่ดินของตนคืน 14 และถ้าเจ้าทำการซื้อขายกับชนร่วมชาติของเจ้า ก็อย่าเอาเปรียบกันและกัน 15 เจ้าจะซื้อที่นาจากชนร่วมชาติของเจ้าก็ดูจำนวนปีหลังจากวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบแล้ว เขาจะขายให้เจ้าตามแต่จำนวนปีที่เหลือสำหรับปลูกพืช 16 ถ้าปลูกพืชได้อีกหลายปี ราคาก็ขึ้นตามจำนวนปี และถ้าปลูกได้น้อยปี ราคาก็ลดลง เพราะเขาขายจำนวนครั้งที่เจ้าจะปลูกพืชได้ 17 เจ้าจงอย่าเอาเปรียบกันและกัน แต่จงเกรงกลัวพระเจ้าของเจ้า

18 ฉะนั้น พวกเจ้าจงกระทำตามกฎเกณฑ์ของเรา และรักษาปฏิบัติตามคำบัญชาของเรา เพื่อพวกเจ้าจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินอย่างปลอดภัย 19 แผ่นดินจะให้ผลผลิต และพวกเจ้าจะรับประทานจนอิ่มหนำและอาศัยในแผ่นดินอย่างปลอดภัย 20 และถ้าพวกเจ้าพูดว่า “พวกเราจะรับประทานอะไรในปีที่เจ็ดเล่า ถ้าหากเราหว่านหรือเก็บเกี่ยวพืชผลของเราไม่ได้” 21 เราจะบัญชาพรของเราให้เกิดแก่เจ้าในปีที่หก เพื่อให้เจ้าได้รับพืชผลไว้ใช้ถึง 3 ปี 22 เมื่อพวกเจ้าหว่านในปีที่แปด เจ้าจะรับประทานพืชผลเก่าจนถึงปีที่เก้าซึ่งจะผลิตได้ผลรุ่นใหม่

23 ในเรื่องที่ดิน เจ้าจงอย่าขายขาด เพราะที่ดินเป็นของเรา พวกเจ้าเป็นชาวต่างด้าวและอาศัยอยู่กับเรา 24 และเจ้าจงให้โอกาสผู้อื่นซื้อที่ดินทุกผืนกลับคืนได้

25 ถ้าชนร่วมชาติของเจ้าตกอับต้องขายที่ดินบางส่วน และต่อมาญาติสนิทของเขามีสิทธิไถ่ของที่พี่น้องของตนขายไปแล้ว 26 ถ้าคนคนนั้นไม่มีใครไถ่ของคืนได้ ต่อมาเขากลับมั่งมีขึ้นและมีลู่ทางไถ่ของคืน 27 จงให้เขาคิดค่าที่ดินโดยนับจากวันที่เขาขายที่ดินจนถึงวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ และจ่ายคืนให้แก่ผู้ซื้อ จากนั้นเขาจึงได้ที่ดินกลับคืนมา 28 แต่ถ้าเขาไม่สามารถซื้อที่ดินกลับคืน สิ่งที่เขาขายไปแล้วก็จะตกอยู่กับผู้ซื้อจนถึงวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ จากนั้นเขาจะได้ที่ดินคืน

29 ถ้าผู้ใดขายบ้านในเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ เขาจะไถ่คืนได้ภายในระยะ 1 ปีหลังจากขายไปแล้ว เขามีสิทธิเอาบ้านคืนในระยะเวลา 1 ปี 30 ถ้าไม่ไถ่บ้านคืนในเวลา 1 ปีเต็ม บ้านในเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบจะเป็นของผู้ซื้อตลอดทุกชาติพันธุ์ของเขา และจะไม่ต้องคืนแม้จะเป็นวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ 31 แต่บ้านตามชนบทไม่มีกำแพงล้อมรอบนับว่าเป็นทุ่งโล่งและไถ่คืนได้และจะต้องคืนในวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ 32 ชาวเลวีมีสิทธิไถ่บ้านที่อยู่ในเมืองที่พวกเขาเป็นเจ้าของได้ทุกเมื่อ 33 ถ้าชาวเลวีคนใดไม่ถือสิทธิ์ไถ่บ้านคืน บ้านที่ถูกขายในเมืองที่เป็นของชาวเลวีก็จะต้องถูกคืนในวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ เพราะบ้านที่อยู่ในเมืองของชาวเลวีเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาในหมู่ชาวอิสราเอล 34 แต่ทุ่งหญ้าเป็นส่วนกลางของเมืองของพวกเขาที่ขายไม่ได้ เพราะเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาตลอดไป

35 ถ้าชนร่วมชาติของเจ้ายากจนลงและทำมาหาเลี้ยงตนในหมู่เจ้าไม่ได้ เจ้าจงดูแลเขา ให้เขาอาศัยอยู่กับเจ้าอย่างคนต่างด้าวหรือเป็นผู้อาศัย เขาจะอาศัยอยู่กับเจ้า 36 อย่าคิดดอกเบี้ยหรือค้ากำไรเขา แต่จงเกรงกลัวพระเจ้า ให้ชนร่วมชาติของเจ้าอาศัยอยู่ด้วย 37 จงอย่าให้เขายืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยหรือทำกำไรจากอาหารของเจ้า 38 เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเจ้า เรานำพวกเจ้าออกมาจากแผ่นดินของอียิปต์เพื่อยกแผ่นดินคานาอันให้แก่เจ้า และเพื่อเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า

39 และถ้าชนร่วมชาติของเจ้ายากจนลงในหมู่เจ้า และขายตัวเป็นทาส เจ้าจงอย่าให้เขารับใช้อย่างทาส 40 จงให้เขาอยู่กับเจ้าอย่างผู้รับจ้างทำงานหรืออย่างผู้อาศัย เขาจะรับใช้เจ้าจนถึงวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ 41 แล้วเขาจะไปจากเจ้า บรรดาบุตรของเขาก็ไปกับเขาด้วย เพื่อกลับไปหาครอบครัวของเขา และไปสู่ที่ดินของบิดาของเขา 42 เพราะพวกเขาเป็นทาสผู้รับใช้ของเรา เรานำออกไปจากแผ่นดินอียิปต์ พวกเขาจะต้องไม่ถูกขายเป็นทาส 43 เจ้าจงอย่าปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างโหดร้าย แต่จงเกรงกลัวพระเจ้าของเจ้า 44 สำหรับทาสชายและหญิงที่พวกเจ้าจะมีนั้น พวกเจ้าจะซื้อได้จากบรรดาประชาชาติที่อยู่ใกล้เคียงพวกเจ้า 45 เจ้าจะซื้อจากบรรดาชาวต่างด้าวที่อาศัยอยู่กับเจ้าได้ด้วย และครอบครัวของพวกเขาก็อาศัยอยู่กับเจ้า และเกิดในแผ่นดินของพวกเจ้า และเขาจะตกเป็นทรัพย์สินของพวกเจ้าก็ได้ 46 พวกเจ้าจะยกทาสเหล่านี้ให้แก่บุตรต่อจากเจ้าก็ได้ ให้เขารับทอดเป็นมรดก พวกเจ้าให้เขาเป็นทาสได้ตลอดไป แต่เจ้าจงอย่าปฏิบัติต่อชนร่วมชาติของเจ้าคือชาวอิสราเอลอย่างโหดร้าย

47 ถ้าชาวต่างด้าวหรือผู้อาศัยมั่งมีขึ้น และชนร่วมชาติของเจ้าอยู่กับเขาจนกระทั่งต้องขายตัวเป็นทาสให้แก่ชาวต่างด้าวหรือผู้อาศัยอยู่กับเจ้าหรือแก่สมาชิกครอบครัวของชาวต่างด้าว 48 หลังจากที่ขายแล้ว ก็สามารถไถ่คืนได้ ชนร่วมชาติของเขาสามารถไถ่เขาคืนได้ 49 หรือไม่ก็ลุง อา หรือลูกพี่ลูกน้องสามารถไถ่เขาคืนได้ หรือญาติพี่น้องในครอบครัวเดียวกันสามารถไถ่เขาคืนได้ หรือถ้าเขามั่งมีขึ้นเขาก็อาจจะไถ่ตนเองได้ 50 ผู้เป็นทาสจะตกลงกับผู้ที่จะไถ่ตัวเขาว่า นับจากเวลาที่เขาขายตัวเป็นทาสจนถึงวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบเป็นเวลานานกี่ปี ราคาของการปลดปล่อยตัวคำนวณตามอัตราลูกจ้างตามจำนวนปี 51 ถ้าเหลือเวลาอีกหลายปีจนถึงวาระฉลอง เขาต้องคืนราคาค่าตัวให้เจ้าของเพื่อไถ่ตัว 52 ถ้าเหลือเพียงไม่กี่ปีจนถึงวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ เขาก็ต้องคำนวณเวลากัน ตามสัดส่วนที่ต้องคืนราคาค่าตัวสำหรับการไถ่ตัวคืน 53 ชาวต่างด้าวต้องกระทำต่อผู้รับใช้เหมือนว่าเขาเป็นผู้รับจ้างรายปี เจ้าต้องรู้เห็นด้วยว่านายจ้างต้องไม่ปฏิบัติต่อเขาอย่างโหดร้าย 54 ถึงแม้ว่าเขาไม่ถูกไถ่ตัวด้วยวิธีเหล่านี้ก็ตาม เขาก็ยังจะรับการปลดปล่อยในวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบพร้อมกับบุตรของเขาด้วย 55 ด้วยว่าชาวอิสราเอลเป็นทาสผู้รับใช้สำหรับเรา พวกเขาเป็นทาสผู้รับใช้ที่เรานำออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเจ้า