คำอำลาของซามูเอล

12 ซามูเอลกล่าวแก่ปวงชนอิสราเอลว่า “ดูเถิด ข้าพเจ้าได้ทำตามที่ท่านทั้งหลายขอและตั้งกษัตริย์ขึ้นมาปกครองท่าน บัดนี้ท่านมีกษัตริย์เป็นผู้นำ ส่วนข้าพเจ้าเองก็ชราและผมก็หงอกแล้ว บุตรชายของข้าพเจ้าอยู่ท่ามกลางพวกท่าน ข้าพเจ้าเป็นผู้นำของท่านมาตั้งแต่หนุ่มจวบจนถึงวันนี้ ข้าพเจ้ายืนอยู่ที่นี่แล้ว จงให้การต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและต่อหน้าผู้ที่พระองค์ทรงเจิมตั้งไว้เถิดว่า ข้าพเจ้าเคยยึดวัวหรือลาของใครไปบ้าง? ข้าพเจ้าเคยโกงหรือเคยข่มเหงรังแกใครบ้าง? ข้าพเจ้าเคยรับสินบนจากใครบ้างเพื่อบิดเบือนความยุติธรรม? หากมี ข้าพเจ้าจะสะสางให้เรียบร้อย”

พวกเขาตอบว่า “ไม่เลย ท่านไม่เคยโกงหรือข่มเหงรังแกเรา และท่านไม่เคยรับอะไรจากใคร”

ซามูเอลกล่าวกับพวกเขาว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพยานและผู้ที่พระองค์ทรงเจิมตั้งเป็นพยานในวันนี้ด้วยว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ฉกฉวยสิ่งใดจากพวกท่านเลย”

พวกเขาตอบว่า “พระองค์ทรงเป็นพยาน”

แล้วซามูเอลกล่าวกับประชากรว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าคือผู้ที่ทรงแต่งตั้งโมเสสกับอาโรน พระองค์ทรงนำเหล่าบรรพบุรุษของพวกท่านออกมาจากอียิปต์ บัดนี้จงยืนสงบอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพเจ้าจะรื้อฟื้นความทรงจำของท่านเกี่ยวกับพระราชกิจอันชอบธรรมทั้งปวง ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำเพื่อท่านกับเหล่าบรรพบุรุษ

“หลังจากที่ยาโคบเข้าสู่อียิปต์ พวกเขาได้ร้องขอความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงส่งโมเสสกับอาโรนมานำบรรพบุรุษของท่านออกจากอียิปต์และมาตั้งรกรากในแผ่นดินนี้

“แต่เหล่าบรรพบุรุษกลับลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา พระองค์จึงทรงขายพวกเขาไว้ในมือสิเสราแม่ทัพของกองทัพแห่งฮาโซร์ และในมือชาวฟีลิสเตียและกษัตริย์แห่งโมอับให้ทำศึกกับพวกเขา 10 เหล่าบรรพบุรุษร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘ข้าพระองค์ทั้งหลายทำบาปแล้วที่ได้ละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้าไปปรนนิบัติพระบาอัลและพระอัชโทเรท แต่บัดนี้ขอทรงกอบกู้เราจากเงื้อมมือของศัตรู และข้าพระองค์ทั้งหลายจะปรนนิบัติพระองค์’ 11 องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงส่งเยรุบบาอัล[a] บาราค[b] เยฟธาห์ และซามูเอล[c]มาช่วยท่านจากเงื้อมมือของศัตรูรอบด้าน เพื่อท่านจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่นคงปลอดภัย

12 “แต่เมื่อท่านเห็นกษัตริย์นาหาชแห่งอัมโมนยกมาโจมตี ท่านก็กล่าวกับข้าพเจ้าว่า ‘เราต้องการกษัตริย์ปกครองเรา’ ทั้งๆ ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเป็นกษัตริย์ของท่าน 13 ดูเถิด นี่คือกษัตริย์ที่ท่านเลือก ผู้ที่ท่านร้องขอ ดูเถิดองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงตั้งกษัตริย์ปกครองท่านแล้ว 14 หากท่านยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าปรนนิบัติและเชื่อฟังพระองค์ ไม่ได้ฝ่าฝืนพระบัญชาของพระองค์ ทั้งท่านและกษัตริย์ผู้ปกครองท่านติดตามพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน นั่นก็ดีแล้ว! 15 แต่หากท่านไม่เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าและฝ่าฝืนพระบัญชาของพระองค์ พระหัตถ์ของพระองค์จะทรงจัดการกับท่านเหมือนที่ทรงจัดการกับเหล่าบรรพบุรุษของท่าน

16 “บัดนี้จงสงบนิ่งและคอยดูสิ่งยิ่งใหญ่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงกระทำต่อหน้าต่อตาท่าน! 17 ขณะนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าวสาลีไม่ใช่หรือ? แต่ข้าพเจ้าจะทูลขอองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ทรงส่งฟ้าร้องและฝนมา แล้วท่านจะตระหนักว่า ท่านทำสิ่งที่ชั่วร้ายเพียงใดในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทูลขอให้มีกษัตริย์”

18 แล้วซามูเอลร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าและในวันนั้นเององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งฟ้าร้องและฝนมา ดังนั้นประชากรทั้งปวงจึงเกรงกลัวองค์พระผู้เป็นเจ้าและซามูเอลยิ่งนัก

19 ประชากรทั้งปวงกล่าวกับซามูเอลว่า “โปรดอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเพื่อเหล่าผู้รับใช้ของท่านด้วย เพื่อเราจะไม่ตาย เพราะนอกจากบาปอื่นๆ ของเรา เรายังเพิ่มบาปชั่วที่ทูลขอกษัตริย์”

20 ซามูเอลตอบว่า “อย่ากลัวเลย ท่านทั้งหลายได้ทำสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดนี้แล้วก็จริง แต่จงปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดใจ อย่าหันเหไปจากองค์พระผู้เป็นเจ้า 21 อย่าหันไปติดตามรูปเคารพอันไร้ค่า ซึ่งไม่สามารถทำสิ่งดีอะไรให้ได้และช่วยอะไรท่านก็ไม่ได้ เพราะพระเหล่านั้นไร้ประโยชน์ 22 เพื่อเห็นแก่พระนามอันยิ่งใหญ่ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงละประชากรของพระองค์ เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยที่จะทำให้ท่านเป็นของพระองค์เอง 23 ส่วนข้าพเจ้านั้นขออย่าให้ข้าพเจ้าทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยการหยุดอธิษฐานเพื่อท่าน ข้าพเจ้าจะยังคงสั่งสอนแนวทางอันดีงามและถูกต้องแก่ท่าน 24 จงใส่ใจยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าและปรนนิบัติพระองค์อย่างซื่อสัตย์ด้วยสุดใจของท่าน จงคิดใคร่ครวญถึงสิ่งยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อท่าน 25 แต่หากท่านยังคงทำชั่วต่อไป ทั้งท่านและกษัตริย์ของท่านจะถูกกวาดล้างไป”

Footnotes

  1. 12:11 มีอีกชื่อหนึ่งว่ากิเดโอน
  2. 12:11 ภาษาฮีบรูว่าเบดาน
  3. 12:11 สำเนา LXX. บางฉบับและฉบับ Syr. ว่าแซมสัน

สุนทรพจน์ลาของซามูเอล

12 ซามูเอลกล่าวกับชาวอิสราเอลทั้งปวงว่า “เราได้ฟังเสียงของพวกท่าน ฟังทุกเรื่องที่ท่านพูด และได้แต่งตั้งกษัตริย์ปกครองพวกท่าน บัดนี้ท่านมีกษัตริย์เป็นผู้นำ และเราก็ชราและผมหงอกแล้ว บุตรของเราก็อยู่กับพวกท่าน เราเป็นผู้นำของท่านตั้งแต่หนุ่มมาจนถึงวันนี้ เรายืนอยู่ตรงนี้ หากว่าเรากระทำสิ่งใดผิด เชิญท่านยืนยัน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าและผู้ที่ได้รับการเจิมของพระองค์ได้เลย เราเอาโคของใครไปบ้าง เราเอาลาของใครไปบ้าง เราฉ้อโกงใครบ้าง เราบีบบังคับใครบ้าง เรารับสินบนจากมือใครอันเป็นเหตุทำให้เราตาบอดบ้าง ถ้าเรากระทำสิ่งใดดังกล่าว เราจะใช้คืน” พวกเขาพูดว่า “ท่านไม่ได้ฉ้อโกงหรือบีบบังคับพวกเรา ท่านไม่ได้เอาสิ่งใดไปจากมือของใคร” ซามูเอลกล่าวกับพวกเขาว่า “พระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน และผู้ได้รับการเจิมของพระองค์ก็เป็นพยานในวันนี้ว่า พวกท่านไม่พบสิ่งใดในมือของเรา” พวกเขาตอบว่า “พระองค์เป็นพยาน”

ซามูเอลจึงพูดกับประชาชนว่า “พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ที่แต่งตั้งโมเสสและอาโรน และนำบรรพบุรุษของท่านขึ้นมาจากประเทศอียิปต์ บัดนี้ จงยืนฟังให้ดีเถิด เพราะเราจะบอกท่านซึ่งๆ หน้า ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าว่า พระองค์กระทำสิ่งอันชอบธรรมทุกประการเพื่อพวกท่านและเหล่าบรรพบุรุษของท่าน เมื่อยาโคบเข้าไปในอียิปต์ และชาวอียิปต์บีบบังคับพวกเขา และบรรพบุรุษของท่านร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า และพระผู้เป็นเจ้าให้โมเสสและอาโรนมา เพื่อนำบรรพบุรุษของท่านออกมาจากอียิปต์ และให้ตั้งรกรากอยู่ในที่แห่งนี้ แต่เขาทั้งหลายลืมพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเขา พระองค์จึงขายพวกเขาไปและให้ตกอยู่ในมือของสิเส-ราผู้บังคับกองพันทหารของฮาโซร์ และตกอยู่ในมือของชาวฟีลิสเตียและกษัตริย์แห่งโมอับ เขาเหล่านั้นต่อสู้กับบรรพบุรุษ 10 พวกเขาจึงร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้าและพูดว่า ‘เราได้กระทำบาป เราได้ทอดทิ้งพระผู้เป็นเจ้า และไปนมัสการพวกเทพเจ้าบาอัลและเทพเจ้าอัชโทเรท แต่บัดนี้โปรดช่วยพวกเราให้รอดจากเงื้อมมือของศัตรู และเราจะนมัสการพระองค์’ 11 แล้วพระผู้เป็นเจ้าให้เยรุบบาอัล เบดาน เยฟธาห์ และซามูเอล มาช่วยพวกท่านให้รอดจากเงื้อมมือของศัตรูทุกด้าน เพื่อให้ท่านอาศัยอยู่ได้อย่างปลอดภัย[a] 12 แต่เมื่อท่านเห็นว่านาหาชกษัตริย์ของชาวอัมโมนยกกองทัพมาโจมตีท่าน ท่านพูดกับเราว่า ‘ไม่ยอม เราต้องการกษัตริย์ปกครองพวกเรา’ ถึงแม้ว่าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเป็นกษัตริย์ของพวกท่าน 13 บัดนี้กษัตริย์ที่ท่านเลือกอยู่นี่แล้ว เป็นผู้ที่ท่านขอ ดูสิ พระผู้เป็นเจ้าโปรดให้มีกษัตริย์ปกครองท่าน 14 ถ้าท่านเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า รับใช้และเชื่อฟังพระองค์ และไม่ขัดขืนต่อคำบัญชาของพระองค์ และถ้าทั้งพวกท่านและกษัตริย์ที่ปกครองท่านติดตามพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ก็นับว่าดี 15 แต่ถ้าพวกท่านไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า และถ้าท่านขัดขืนต่อคำบัญชาของพระองค์ พระองค์ก็จะลงโทษพวกท่าน เหมือนอย่างที่ได้ลงโทษบรรพบุรุษของท่าน 16 บัดนี้ จงยืนฟังให้ดีเถิด และดูสิ่งอันยิ่งใหญ่นี้ที่พระผู้เป็นเจ้าจะกระทำให้พวกท่านเห็น 17 เวลานี้ไม่ใช่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าวสาลีหรือ เราจะร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า เพื่อให้เกิดเสียงฟ้าร้องและฝนตก และพวกท่านจะรู้ว่าท่านกระทำสิ่งชั่วร้ายอันใดในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อท่านขอให้มีกษัตริย์” 18 แล้วซามูเอลก็ร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า และในวันเดียวกันนั้น พระผู้เป็นเจ้าทำให้เกิดเสียงฟ้าร้องและฝนตก ดังนั้นคนทั้งปวงจึงเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าและซามูเอล

19 ประชาชนทั้งปวงพูดกับซามูเอลว่า “ช่วยอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ให้แก่บรรดาผู้รับใช้ของท่านเถิด พวกเราจะได้ไม่ตาย เพราะว่าครั้งนี้เราได้เพิ่มความชั่วร้ายไปกับบาปทั้งปวงของพวกเรา เมื่อพวกเราขอให้มีกษัตริย์” 20 ซามูเอลตอบว่า “อย่ากลัวเลย ท่านได้กระทำความชั่วนี้ แต่ก็อย่าเลิกติดตามพระผู้เป็นเจ้า แต่จงรับใช้พระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจของท่าน[b] 21 อย่าหันไปติดตามรูปเคารพทั้งหลายอันไร้ประโยชน์ สิ่งเหล่านั้นไม่ทำอะไรให้ท่านดีขึ้น และจะช่วยชีวิตพวกท่านก็ไม่ได้ เพราะว่าเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ 22 พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทอดทิ้งชนชาติของพระองค์ เพื่อพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ เพราะพระผู้เป็นเจ้ายินดีให้พวกท่านเป็นคนของพระองค์ 23 ส่วนเรา ไม่มีวันที่เราจะกระทำบาปต่อพระผู้เป็นเจ้าด้วยการหยุดอธิษฐานให้พวกท่าน และเราจะสอนท่านเรื่องวิถีทางที่ดีและถูกต้อง 24 แต่จงแน่ใจว่าจะเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าและรับใช้พระองค์ด้วยความภักดีอย่างสุดจิตสุดใจ จงระลึกว่าพระองค์ได้กระทำการอันใหญ่ยิ่งเพื่อท่านเพียงไร 25 แต่ถ้าพวกท่านยังกระทำความชั่วต่อไปอีก ทั้งท่านและกษัตริย์ของท่านก็จะถูกกำจัดเสีย”

Footnotes

  1. 12:11 ข้อ 9-11 อ้างถึงเหตุการณ์ในฉบับผู้วินิจฉัย 3:12-13:1
  2. 12:20 เฉลยธรรมบัญญัติ 10:12; 11:13

ซามูเอลพูดเรื่องกษัตริย์

12 ซามูเอลพูดกับคนอิสราเอลทั้งหมดว่า “เราได้รับฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกท่านพูดกับเรา และได้ตั้งกษัตริย์ขึ้นเหนือพวกท่าน ตอนนี้ พวกท่านมีกษัตริย์เป็นผู้นำแล้ว ส่วนเราก็แก่และผมหงอกแล้ว และพวกลูกชายของเราก็ได้อยู่ที่นี่กับพวกท่าน เราได้เป็นผู้นำของพวกท่านมาตั้งแต่หนุ่มจนถึงวันนี้ เรายืนอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าเราได้ทำอะไรผิดต่อพวกท่าน ก็ให้ว่ามาเลย ต่อหน้าพระยาห์เวห์ และต่อผู้ที่พระองค์ได้เจิมไว้ เราได้ยึดวัว หรือยึดลาของใครไปบ้าง ใครที่โดนเราโกง หรือโดนเราข่มเหงบ้าง เราได้รับสินบนจากมือใครบ้างเพื่อปิดหูปิดตาเรา ถ้าเราได้ทำสิ่งใดที่ได้พูดมาแล้วนั้น เราจะชดใช้ให้”

พวกเขาตอบว่า “ท่านไม่เคยโกง หรือข่มเหงพวกเรา ท่านไม่เคยรับสิ่งของใดๆจากมือของใครเลย”

ซามูเอลพูดกับพวกเขาว่า “พระยาห์เวห์ และคนที่พระองค์เจิมไว้ได้เป็นพยานต่อพวกท่านในวันนี้ว่า พวกท่านไม่พบสิ่งใดในมือของเรา” พวกเขาก็ตอบว่า “พระองค์เป็นพยาน”

จากนั้นซามูเอลพูดกับประชาชนว่า “พระยาห์เวห์ได้แต่งตั้งโมเสสกับอาโรน และได้นำบรรพบุรุษของท่านออกมาจากอียิปต์ ตอนนี้ ให้พวกท่านมายืนอยู่ที่นี่ เพราะเราจะดำเนินคดีกับพวกท่านต่อหน้าพระยาห์เวห์ เราจะบอกพวกท่าน[a] ถึงสิ่งดีๆที่พระยาห์เวห์ได้ทำให้กับพวกท่านและบรรพบุรุษของพวกท่าน

หลังจากที่ยาโคบเข้าไปอยู่ในอียิปต์ และคนอียิปต์ได้กดขี่ข่มเหงลูกหลานของเขา บรรพบุรุษของพวกท่านได้ร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์ก็ส่งโมเสสกับอาโรน มานำพวกเขาออกจากอียิปต์จนมาตั้งรกรากอยู่ที่นี่

แต่บรรพบุรุษของท่านได้ลืมพระยาห์เวห์ของเขา พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาจึงขายพวกเขาให้ตกไปอยู่ในมือของสิเสรา ซึ่งเป็นแม่ทัพของกองทัพฮาโซร์ และปล่อยให้พวกเขาตกอยู่ในมือของคนฟีลิสเตีย และกษัตริย์เมืองโมอับ แล้วพวกนั้นก็สู้รบกับบรรพบุรุษของพวกท่าน 10 บรรพบุรุษของพวกท่านได้ร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์ว่า ‘พวกเราได้ทำบาป พวกเราได้ละทิ้งพระยาห์เวห์ ไปรับใช้พวกพระบาอัลและพวกพระอัชทาโรท แต่ตอนนี้ โปรดช่วยพวกเราให้พ้นจากมือศัตรูด้วยเถิด และพวกเราจะรับใช้พระองค์’

11 ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงส่งกิเดโอน[b] บาราค[c] เยฟธาห์[d] และซามูเอล[e] มา แล้วพระองค์ได้ช่วยกู้พวกท่านจากเงื้อมมือของศัตรูที่มีอยู่รอบด้าน เพื่อให้ท่านอยู่อย่างปลอดภัย 12 แต่เมื่อพวกท่านได้เห็นนาหาชกษัตริย์ของคนอัมโมนออกมาต่อสู้กับพวกท่าน พวกท่านก็พูดกับเราว่า ‘ไม่ได้แล้ว พวกเราต้องการมีกษัตริย์ปกครองพวกเรา’ ทั้งๆที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านเป็นกษัตริย์ของพวกท่านอยู่แล้วก็ตาม 13 ต่อจากนี้ไป นี่คือกษัตริย์ที่พวกท่านได้เลือก คนที่พวกท่านได้ร้องขอ[f] และพระยาห์เวห์ได้ตั้งกษัตริย์เหนือพวกท่านแล้ว 14 ถ้าพวกท่านยำเกรงพระยาห์เวห์ ยอมรับใช้ เชื่อฟังและไม่ขัดขืนพวกคำสั่งของพระองค์ ถ้าพวกท่านและกษัตริย์ที่ปกครองพวกท่านติดตามพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน พระเจ้าก็จะช่วยกู้พวกท่าน[g] 15 แต่ถ้าพวกท่านไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์ หรือขัดขืนพวกคำสั่งของพระองค์ มือของพระองค์ก็จะต่อสู้กับพวกท่านเหมือนกับที่ต่อสู้กับบรรพบุรุษของพวกท่าน

16 ตอนนี้ยืนนิ่งๆคอยดูสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ที่พระยาห์เวห์กำลังจะทำให้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกท่าน 17 พวกท่านก็รู้ว่าตอนนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวข้าวสาลี[h] ซึ่งฝนแล้ง เราจะร้องขอให้พระยาห์เวห์ทำให้ฝนตกและฟ้าร้อง พวกท่านจะได้รู้ว่ามันชั่วร้ายขนาดไหนในสายตาของพระยาห์เวห์ เมื่อท่านร้องขอให้มีกษัตริย์”

18 จากนั้นซามูเอลได้ร้องขอต่อพระยาห์เวห์ และในวันนั้นเอง พระยาห์เวห์ได้ทำให้ฝนตกและฟ้าร้อง ประชาชนทั้งหมดจึงเกรงกลัวพระยาห์เวห์และซามูเอล 19 ประชาชนทั้งหมดจึงพูดกับซามูเอลว่า “ช่วยอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่าน ให้กับพวกเราผู้รับใช้ของท่านด้วย เพื่อพวกเราจะได้ไม่ตาย เพราะบาปที่เราร้องขอให้มีกษัตริย์ซึ่งเป็นการทำบาปเพิ่มขึ้นไปอีกจากบาปอื่นๆที่เราได้ทำอยู่แล้ว”

20 ซามูเอลตอบว่า “ไม่ต้องกลัว แม้พวกท่านได้ทำสิ่งชั่วร้ายนี้ ก็อย่าได้หันไปจากพระยาห์เวห์ แต่ให้รับใช้พระยาห์เวห์อย่างสุดหัวใจ 21 อย่าหันไปตามรูปเคารพต่างๆที่ไร้ประโยชน์ พวกมันไม่สามารถทำสิ่งดี หรือช่วยชีวิตท่านได้ เพราะพวกมันเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์

22 เพื่อรักษาชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์ พระองค์จะไม่ละทิ้งประชาชนของพระองค์ เพราะพระยาห์เวห์ยินดีที่จะทำให้พวกท่านเป็นคนของพระองค์ 23 ส่วนเราเอง เราจะไม่หยุดอธิษฐานเพื่อพวกท่าน เพราะถ้าเราหยุด เราก็ได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์ และเราก็ยังจะสอนพวกท่านในสิ่งที่ดีงามและถูกต้อง 24 แต่ขอให้ยำเกรงพระยาห์เวห์ และรับใช้พระองค์อย่างจริงใจและสิ้นสุดใจของท่าน ให้ระลึกถึงสิ่งยอดเยี่ยมทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำให้กับพวกท่าน 25 แต่ถ้าท่านยังจะดื้อดึงและทำสิ่งที่ชั่วร้าย พระเจ้าก็จะกวาดพวกท่านและกษัตริย์ของพวกท่านทิ้งไป”

Footnotes

  1. 12:7 เราจะบอกพวกท่าน คำเหล่านี้มาจากสำเนาแปลกรีกโบราณ
  2. 12:11 กิเดโอน หรือ เยรุบบาอัล อ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือผู้วินิจฉัย บทที่ 6-8
  3. 12:11 บาราค อยู่ในสำเนาแปลกรีกและภาษาซีเรีย เขาต่อสู้เคียงข้างกับเดโบราห์ ในหนังสือ ผู้วินิจฉัย บทที่ 4-5 ในฉบับฮีบรูที่นิยมใช้กัน ใช้คำว่า “เบดาน” ซึ่งอาจจะเป็นอีกคนหนึ่งที่พบใน 1 พงศาวดาร 7:17
  4. 12:11 เยฟธาห์ อ่านเรื่องเขาเพิ่มเติมได้จากหนังสือผู้วินิจฉัย บทที่ 10:6-12:7
  5. 12:11 ซามูเอล มาจากฉบับฮีบรูที่นิยมใช้กันและจากสำเนากรีกบางฉบับ แต่สำเนากรีกฉบับอื่นและฉบับซีเรีย เขียนว่า “แซมสัน” เรื่องนี้อ่านได้จากหนังสือผู้วินิจฉัย บทที่ 13:16
  6. 12:13 คนที่พวกท่านได้ร้องขอ ตรงนี้คงเป็นการเล่นคำในภาษาฮีบรู “คนที่พวกท่านได้ร้องขอ” ออกเสียงเหมือนชื่อ “ซาอูล”
  7. 12:14 พระเจ้าก็จะช่วยกู้พวกท่าน คำเหล่านี้มาจากสำเนาแปลกรีกโบราณ
  8. 12:17 ฤดูเก็บเกี่ยวข้าวสาลี ช่วงที่ไม่มีฝนตก เป็นช่วงเวลาแห้งแล้งของปี