หญิงชาวชูเนมได้ที่ดินกลับคืนมา

เอลีชากล่าวแก่หญิงซึ่งเขาได้ชุบชีวิตบุตรของนางว่า “จงพาครอบครัวของเจ้าย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้เกิดการกันดารอาหารในแผ่นดินอิสราเอลถึงเจ็ดปี” หญิงนั้นจึงอพยพครอบครัวไปอาศัยที่แผ่นดินฟีลิสเตียเป็นเวลาเจ็ดปีตามที่คนของพระเจ้าบอก

เมื่อครบเจ็ดปีนางก็กลับมาจากดินแดนฟีลิสเตีย ไปเข้าเฝ้ากษัตริย์เพื่อถวายฎีกาขอรับบ้านและที่ดินคืน ขณะนั้นกษัตริย์ได้ตรัสกับเกหะซีคนรับใช้ของเอลีชาว่า “จงเล่าการใหญ่ทั้งปวงที่เอลีชาทำให้เราฟัง” ระหว่างที่เกหะซีกำลังทูลเรื่องราวเมื่อครั้งเอลีชาชุบชีวิตเด็กชายคนหนึ่ง เวลานั้นเองมารดาของเด็กนั้นก็เดินเข้าไปเพื่อทูลขอบ้านและที่ดินคืน

เกหะซีจึงทูลว่า “ข้าแต่ฝ่าพระบาท นี่แหละผู้หญิงคนนั้น และนี่ก็ลูกของนางที่เอลีชาช่วยให้ฟื้นคืนชีวิต” กษัตริย์จึงตรัสถามนาง นางก็กราบทูลว่าเป็นเช่นนั้น

แล้วกษัตริย์ทรงมอบหมายให้ข้าราชการคนหนึ่งจัดการเรื่องของนาง และตรัสว่า “จงคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของนาง รวมทั้งรายได้จากที่ดินของนางตั้งแต่วันที่นางจากไปจนถึงวันนี้ด้วย”

ฮาซาเอลปลงพระชนม์เบนฮาดัด

เอลีชาไปยังกรุงดามัสกัส กษัตริย์เบนฮาดัดแห่งอารัมประชวรอยู่ เมื่อทรงทราบว่าคนของพระเจ้ามา ก็ตรัสกับฮาซาเอลว่า “จงนำของกำนัลไปพบคนของพระเจ้า ให้เขาช่วยทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘เราจะหายป่วยหรือไม่?’ ”

ฮาซาเอลก็นำผลผลิตดีเยี่ยมของดามัสกัสบรรทุกอูฐสี่สิบตัวมาเป็นของกำนัลสำหรับเอลีชา เขามายืนต่อหน้าเอลีชาและกล่าวว่า “กษัตริย์เบนฮาดัดแห่งอารัมบุตรของท่านส่งข้าพเจ้ามาเรียนถามว่า ‘เราจะหายป่วยหรือไม่?’ ”

10 เอลีชาตอบว่า “จงไปบอกเขาว่า ‘เจ้าจะหายป่วยแน่นอน’ แต่[a]องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงแก่เราว่าเขาจะตาย” 11 เอลีชาจ้องหน้าฮาซาเอลเขม็งจนเขารู้สึกอึดอัด แล้วคนของพระเจ้าก็เริ่มร้องไห้

12 ฮาซาเอลถามว่า “ท่านร้องไห้ทำไม?”

เอลีชาตอบว่า “เรารู้ถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เจ้าจะทำแก่ชนอิสราเอล เจ้าจะเผาป้อมปราการของเขา ฆ่าฟันพวกคนหนุ่ม จับเด็กทารกฟาดกับพื้น และผ่าท้องหญิงมีครรภ์”

13 ฮาซาเอลกล่าวว่า “ผู้น้อยเป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่งจะทำการอุกอาจเช่นนั้นได้หรือ?”

เอลีชาตอบว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงแก่เราว่าเจ้าจะได้เป็นกษัตริย์แห่งอารัม”

14 แล้วฮาซาเอลก็ละจากเอลีชากลับมาเข้าเฝ้า เมื่อกษัตริย์เบนฮาดัดตรัสถามว่า “เอลีชาบอกอะไรเจ้าบ้าง?” ฮาซาเอลทูลว่า “เขาบอกว่าฝ่าพระบาทจะหายประชวรแน่นอน” 15 แต่วันรุ่งขึ้นฮาซาเอลก็เอาผ้าหนาๆ ชุบน้ำปิดพระพักตร์กษัตริย์ พระองค์จึงสิ้นพระชนม์ แล้วฮาซาเอลขึ้นครองราชย์แทน

กษัตริย์เยโฮรัมแห่งยูดาห์(A)

16 ในขณะที่เยโฮชาฟัทยังคงเป็นกษัตริย์ยูดาห์อยู่ เยโฮรัมโอรสของพระองค์เริ่มขึ้นครองราชย์ ตรงกับปีที่ห้าแห่งรัชกาลกษัตริย์โยรัมแห่งอิสราเอลโอรสของอาหับ 17 ขณะขึ้นเป็นกษัตริย์เยโฮรัมมีพระชนมายุ 32 พรรษา และทรงครองราชย์อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มแปดปี 18 เยโฮรัมทรงดำเนินตามอย่างบรรดากษัตริย์อิสราเอล ตามอย่างราชวงศ์อาหับ เพราะทรงอภิเษกกับพระธิดาองค์หนึ่งของอาหับ พระองค์ทรงทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า 19 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ประสงค์จะทำลายล้างยูดาห์เพราะเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์ทรงสัญญาไว้ว่าจะรักษาดวงประทีปดวงหนึ่งไว้สำหรับดาวิดและวงศ์วานตลอดไป

20 ในรัชกาลของเยโฮรัม เอโดมกบฏต่อยูดาห์และตั้งกษัตริย์ปกครองตนเอง 21 เยโฮรัม[b]จึงเสด็จไปยังศาอีร์พร้อมด้วยรถม้าศึกทั้งหมด ชาวเอโดมโอบล้อมพระองค์กับผู้บัญชาการรถรบ แต่เยโฮรัมทรงตีฝ่าวงล้อมออกไปได้ในเวลากลางคืน ส่วนกองทัพของพระองค์หนีเตลิดกลับบ้าน 22 เอโดมจึงกบฏต่อยูดาห์จนถึงทุกวันนี้ ครั้งนั้นลิบนาห์ก็กบฏด้วย

23 เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลของเยโฮรัมและพระราชกิจต่างๆ มีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งยูดาห์ไม่ใช่หรือ? 24 แล้วเยโฮรัมทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและถูกฝังไว้ด้วยกันในเมืองดาวิด แล้วอาหัสยาห์โอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน

กษัตริย์อาหัสยาห์แห่งยูดาห์(B)

25 อาหัสยาห์โอรสกษัตริย์เยโฮรัมแห่งยูดาห์ขึ้นครองราชย์ ตรงกับปีที่สิบสองของรัชกาลกษัตริย์โยรัมโอรสของอาหับแห่งอิสราเอล 26 อาหัสยาห์ทรงมีพระชนมายุ 22 พรรษาเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์ และทรงครองราชย์อยู่เพียงปีเดียวในกรุงเยรูซาเล็ม ราชมารดาคืออาธาลิยาห์ หลานสาวของกษัตริย์อมรีแห่งอิสราเอล 27 อาหัสยาห์ทรงดำเนินตามอย่างราชวงศ์อาหับ และทรงทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าตามอย่างราชวงศ์อาหับ เพราะทรงอภิเษกสมรสกับเชื้อพระวงศ์ของอาหับ

28 อาหัสยาห์ทรงเข้าร่วมกับโยรัมโอรสของอาหับ ไปรบกับกษัตริย์ฮาซาเอลแห่งอารัมที่เมืองราโมทกิเลอาด โยรัมได้รับบาดเจ็บด้วยน้ำมือของชาวอารัม 29 ดังนั้นกษัตริย์โยรัมจึงเสด็จกลับมาพักฟื้นที่ยิสเรเอล เพราะบาดเจ็บจากสงครามกับกษัตริย์ฮาซาเอลแห่งอารัมที่ราโมท[c]

แล้วอาหัสยาห์โอรสกษัตริย์เยโฮรัมแห่งยูดาห์ก็เสด็จลงไปเยี่ยมพระอาการของโยรัมโอรสของอาหับที่ยิสเรเอล

Footnotes

  1. 8:10 ภาษาฮีบรูอาจจะมีความหมายอีกอย่างหนึ่งว่าจงไปบอกเขาว่า ‘เจ้าจะไม่หายป่วยแน่นอน’ เพราะ
  2. 8:21 ภาษาฮีบรูว่าโยรัมเป็นอีกรูปหนึ่งของเยโฮรัมเช่นเดียวกับข้อ 23 และ 24
  3. 8:29 ภาษาฮีบรูว่ารามาห์เป็นอีกรูปหนึ่งของราโมท

ชาวชูเนมได้ที่ดินกลับคืน

ก่อนหน้านี้ เอลีชาได้บอกหญิงคนที่ท่านช่วยให้บุตรชายมีชีวิตคืนมาว่า “ไปเถิด จงพาทั้งครัวเรือนของเจ้าเดินทางไป และไปหาที่อาศัยเท่าที่ท่านจะอยู่ได้ เพราะพระผู้เป็นเจ้าสั่งให้เกิดทุพภิกขภัยในแผ่นดิน ยาวนานถึง 7 ปี”[a] หญิงคนนั้นจึงเดินทางไป และทำตามคำของคนของพระเจ้า นางไปกับครัวเรือนของนาง และอาศัยอยู่ในแผ่นดินของชาวฟีลิสเตีย 7 ปี ปลายปีที่เจ็ด เมื่อนางกลับมาจากแผ่นดินของชาวฟีลิสเตีย นางก็ไปร้องทุกข์ต่อกษัตริย์เรื่องบ้านและที่ดินของนาง ฝ่ายกษัตริย์ก็กำลังพูดอยู่กับเกหะซีคนรับใช้ของคนของพระเจ้าว่า “จงเล่าเรื่องอัศจรรย์ต่างๆ ที่เอลีชาได้กระทำให้เราฟัง” ขณะที่เขากำลังทูลกษัตริย์ว่า เอลีชาทำให้คนตายมีชีวิตขึ้นได้อย่างไร ดูเถิด หญิงที่ท่านช่วยให้บุตรชายมีชีวิตคืนมา ก็มาร้องทุกข์ต่อกษัตริย์เรื่องบ้านและที่ดินของนาง และเกหะซีทูลว่า “โอ เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ หญิงคนนี้แหละ นี่ก็คือบุตรชายของนางที่เอลีชาช่วยให้มีชีวิตคืนมา” เมื่อกษัตริย์ถามหญิงผู้นั้น นางก็ทูลเรื่องราวให้ท่านฟัง ดังนั้นกษัตริย์จึงมอบหมายให้ขันทีคนหนึ่งช่วยนาง และกำชับว่า “จงไปนำทุกสิ่งกลับคืนมาให้นาง รวมถึงผลิตผลที่ได้จากนา นับตั้งแต่วันที่นางจากไปจนถึงบัดนี้”

ฮาซาเอลประหารเบนฮาดัด

ฝ่ายเอลีชาก็มายังเมืองดามัสกัส เบนฮาดัดกษัตริย์แห่งอารัมป่วยอยู่ มีคนทูลให้ท่านทราบว่า “คนของพระเจ้าได้มาถึงที่นี่” กษัตริย์กล่าวกับฮาซาเอลว่า “เจ้าจงไปพบกับคนของพระเจ้า แล้วเอาของกำนัลไปด้วย และถามพระผู้เป็นเจ้าผ่านท่านว่า ‘เราจะหายจากโรคนี้ไหม’” ฮาซาเอลจึงไปพบกับเอลีชา โดยนำสินค้าชั้นเยี่ยมจากดามัสกัสเป็นของกำนัลบรรทุกอูฐไป 40 ตัว เมื่อมาถึงก็ได้ยืนต่อหน้าท่าน และพูดว่า “เบนฮาดัดกษัตริย์แห่งอารัมผู้เคารพนับถือท่าน ใช้ข้าพเจ้ามาหาท่าน เพื่อถามว่า ‘เราจะหายจากโรคนี้ไหม’” 10 เอลีชาตอบเขาว่า “จงไปบอกท่านว่า ‘ท่านจะหายจากโรคนี้อย่างแน่นอน’ แต่พระผู้เป็นเจ้าบอกให้เราทราบแล้วว่า ท่านจะสิ้นชีวิตอย่างแน่นอน” 11 ท่านจ้องดูฮาซาเอลอยู่ชั่วขณะหนึ่ง จนกระทั่งฮาซาเอลรู้สึกอึดอัดใจ แล้วคนของพระเจ้าก็ร้องไห้ 12 ฮาซาเอลถามว่า “ทำไมเจ้านายของข้าพเจ้าจึงร้องไห้” ท่านตอบว่า “เพราะเรารู้ถึงความเลวร้ายที่เจ้าจะกระทำต่อชาวอิสราเอล เจ้าจะเอาไฟเผาเมืองต่างๆ ที่พวกเขาคุ้มกันไว้อย่างแข็งแกร่ง เจ้าจะใช้ดาบฆ่าคนหนุ่มๆ และเด็กๆ ถูกเหวี่ยงกระดูกหักตาย และฟันท้องของหญิงมีครรภ์” 13 ฮาซาเอลพูดว่า “ข้ารับใช้อย่างข้าพเจ้าเป็นเพียงคนต่ำต้อย แล้วจะกระทำการครั้งยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างไร” เอลีชาตอบว่า “พระผู้เป็นเจ้าบอกให้เราทราบแล้วว่า เจ้าจะเป็นกษัตริย์ปกครองอารัม” 14 แล้วเขาก็จากเอลีชา และกลับไปหานายของเขา กษัตริย์ถามเขาว่า “เอลีชาพูดอะไรกับเจ้า” เขาตอบว่า “เอลีชากล่าวว่า ท่านจะหายป่วยแน่” 15 แต่พอวันรุ่งขึ้น เขาใช้ผ้าคลุมเตียงจุ่มน้ำ และคลุมไว้ที่หน้าเบนฮาดัดจนสิ้นชีวิต และฮาซาเอลก็ขึ้นมาเป็นกษัตริย์แทน

เยโฮรัมครองราชย์ในยูดาห์

16 ในปีที่ห้าของโยรัมบุตรอาหับกษัตริย์แห่งอิสราเอล เยโฮรัมบุตรเยโฮชาฟัทกษัตริย์แห่งยูดาห์ก็เริ่มครองราชย์ 17 ท่านมีอายุ 32 ปีเมื่อเริ่มเป็นกษัตริย์ และท่านครองราชย์ 8 ปีในเยรูซาเล็ม 18 และท่านดำเนินชีวิตตามแบบอย่างบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล เหมือนกับที่พงศ์พันธุ์ของอาหับได้กระทำ เพราะว่าบุตรหญิงของอาหับเป็นภรรยาของท่าน และท่านกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า 19 ถึงกระนั้นพระผู้เป็นเจ้าก็ไม่ต้องการทำลายยูดาห์ เพราะเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ ในเมื่อพระองค์ได้สัญญาว่าจะมอบผู้สืบเชื้อสายให้แก่ท่าน และแก่บุตรหลานของท่านตลอดไป[b]

20 ในรัชสมัยของเยโฮรัม เอโดมขัดขืนต่อการปกครองของยูดาห์ และแต่งตั้งกษัตริย์ปกครองพวกของตน 21 ครั้นแล้วเยโฮรัมจึงยกทัพไปยังศาอีร์พร้อมกับขบวนรถศึกของท่าน ชาวเอโดมก็ยกทัพมาล้อมท่าน แต่ท่านและผู้บัญชาการรถศึกตีฝ่าชาวเอโดมออกไปได้ในเวลากลางคืน และพวกทหารของท่านก็หนีกลับบ้านไป 22 ดังนั้นเอโดมไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองของยูดาห์มาจนถึงทุกวันนี้ ในเวลาเดียวกันลิบนาห์ก็ไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองเช่นกัน 23 กิจอื่นๆ ทั้งสิ้นของเยโฮรัม และทุกสิ่งที่ท่านกระทำ ก็ได้มีบันทึกไว้แล้วในหนังสือแห่งพงศาวดารของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์มิใช่หรือ 24 เยโฮรัมสิ้นชีวิตและถูกนำไปวางรวมกับบรรพบุรุษของท่าน ศพถูกบรรจุไว้ในเมืองของดาวิด และอาหัสยาห์บุตรของท่านครองราชย์แทนท่าน

อาหัสยาห์ครองราชย์ในยูดาห์

25 ในปีที่สิบสองของโยรัมบุตรอาหับกษัตริย์แห่งอิสราเอล อาหัสยาห์บุตรเยโฮรัมกษัตริย์แห่งยูดาห์ก็เริ่มครองราชย์ 26 อาหัสยาห์มีอายุ 22 ปีเมื่อเริ่มเป็นกษัตริย์ และท่านครองราชย์ 1 ปีในเยรูซาเล็ม มารดาของท่านชื่อ อาธาลิยาห์ นางเป็นหลานสาวของอมรีกษัตริย์แห่งอิสราเอล 27 ท่านดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพงศ์พันธุ์ของอาหับ และกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า เหมือนกับที่พงศ์พันธุ์ของอาหับได้กระทำ เพราะว่าท่านเป็นบุตรเขยในพงศ์พันธุ์ของอาหับ

28 ท่านไปกับโยรัมบุตรอาหับ เพื่อทำสงครามต่อสู้กับฮาซาเอลกษัตริย์แห่งอารัมที่ราโมทกิเลอาด ชาวอารัมทำให้โยรัมได้รับบาดเจ็บ 29 กษัตริย์โยรัมกลับไปรับการรักษาที่ยิสเรเอล เพราะชาวอารัมทำให้ท่านบาดเจ็บที่รามาห์เมื่อต่อสู้กับฮาซาเอลกษัตริย์แห่งอารัม และอาหัสยาห์บุตรเยโฮรัมกษัตริย์แห่งยูดาห์จึงไปเยี่ยมโยรัมบุตรอาหับที่ยิสเรเอล เพราะท่านป่วย

กษัตริย์กับผู้หญิงชาวชูเนม

ในเวลานั้นเอลีชาพูดกับหญิงชาวชูเนมที่เขาได้ทำให้ลูกชายของนางฟื้นคืนชีพขึ้นมา[a] ว่า “ให้ท่านกับครอบครัวของท่านย้ายไปอยู่ที่อื่นที่ท่านจะสามารถเลี้ยงชีพอยู่ได้ เพราะพระยาห์เวห์ได้สั่งให้เกิดความอดอยากขึ้นในแผ่นดินนี้ มันจะยาวนานถึงเจ็ดปี”

หญิงคนนั้นทำตามที่คนของพระเจ้าบอก นางและครอบครัวของนางได้ย้ายออกจากเมืองและไปอยู่ในดินแดนของชาวฟีลิสเตียเป็นเวลาเจ็ดปี และเมื่อครบเจ็ดปี นางก็กลับมาจากดินแดนของชาวฟีลิสเตีย

และนางได้ไปพบกับกษัตริย์เพื่อขอบ้านและที่ดินของนางคืน

กษัตริย์กำลังคุยอยู่กับเกหะซีคนรับใช้ของคนของพระเจ้าว่า “ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อย ถึงเรื่องยิ่งใหญ่ต่างๆที่เอลีชาเคยทำไป”

ในขณะที่เกหะซีกำลังเล่าให้กษัตริย์ฟังว่า เอลีชาทำให้คนที่ตายไปแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อย่างไร หญิงคนที่เอลีชาได้ทำให้ลูกชายของนางฟื้นขึ้น ก็ได้เข้ามาหากษัตริย์ นางมาขอบ้านและที่ดินของนางคืนจากกษัตริย์ เกหะซีพูดว่า “กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า หญิงคนนี้แหละ ที่เอลีชาได้ทำให้ลูกชายของนางฟื้นขึ้นมา”

กษัตริย์ถามหญิงคนนั้นว่านางต้องการอะไร และนางได้บอกกับเขาไป

กษัตริย์จึงมอบหมายเรื่องของนางให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจัดการ กษัตริย์สั่งเขาว่า “คืนทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเป็นของนางให้กับนาง รวมทั้งรายได้จากที่ดินของนางนับตั้งแต่วันที่นางออกจากประเทศนี้ไปจนถึงวันนี้”

เบนฮาดัดถูกฆ่าตาย

เอลีชาไปที่เมืองดามัสกัส ตอนที่กษัตริย์เบนฮาดัดของชาวอารัมกำลังไม่สบาย เมื่อมีคนมาบอกกษัตริย์ว่า “คนของพระเจ้ามาถึงที่นี่แล้ว”

กษัตริย์จึงพูดกับฮาซาเอลว่า “ให้ท่านนำของขวัญไปพบกับคนของพระเจ้าคนนั้น และให้เขาถามพระยาห์เวห์ว่า เราจะหายป่วยในครั้งนี้หรือไม่”

ฮาซาเอลไปพบเอลีชา และเอาของขวัญที่ดีที่สุดหลายอย่างในดามัสกัส บรรทุกเต็มหลังอูฐสี่สิบตัว เขาได้เข้าไปยืนอยู่ต่อหน้าเอลีชาและพูดว่า “กษัตริย์เบนฮาดัดของอารัมลูกชายของท่านส่งเรามาถามท่านว่า ‘เราจะหายป่วยหรือไม่’”

10 เอลีชาตอบว่า “ให้ไปบอกเขาว่า ‘ท่านจะหายป่วยแน่’ แต่พระยาห์เวห์ได้เปิดเผยให้เรารู้ว่าจริงๆแล้วเขาจะตาย”

11 เอลีชาจ้องมองฮาซาเอลด้วยสายตาเขม็งไม่ขยับเขยื้อนอยู่นานจนกระทั่งฮาซาเอลเริ่มรู้สึกอึดอัด แล้วคนของพระเจ้าก็เริ่มร้องไห้ออกมา 12 ฮาซาเอลถามเขาว่า “เจ้านายของเราร้องไห้ทำไม” เขาตอบว่า “ก็เพราะเรารู้ว่าท่านจะเป็นอันตรายกับชาวอิสราเอลทั้งหลายอย่างไรบ้างนะสิ ท่านจะเผาป้อมปราการทุกแห่ง ท่านจะฆ่าคนหนุ่มของพวกเขาด้วยดาบ ท่านจะฟาดเด็กเล็กลงบนพื้นเป็นชิ้นๆและจะแหวกท้องหญิงที่มีครรภ์”

13 ฮาซาเอลพูดว่า “ผู้รับใช้ของท่านที่เป็นเพียงหมาตัวหนึ่งจะทำร้ายพวกท่านถึงขนาดนั้นได้อย่างไรกัน”

เอลีชาตอบไปว่า “พระยาห์เวห์ได้แสดงให้เราเห็นว่าท่านจะได้เป็นกษัตริย์ของชาวอารัม”

14 แล้วฮาซาเอลก็จากเอลีชาและกลับไปหาเจ้านายของเขา เมื่อเบนฮาดัดถามเขาว่า “เอลีชาได้พูดอะไรกับเจ้าบ้าง”

ฮาซาเอลตอบเขาไปว่า “เขาบอกกับข้าพเจ้าว่าท่านจะหายป่วยอย่างแน่นอน”

15 แต่ในวันต่อมา ฮาซาเอลเอาผ้าหนาๆชุบน้ำจนเปียกชุ่มและเอามันโปะไว้บนหน้าของกษัตริย์จนกระทั่งเขาขาดใจตาย แล้วฮาซาเอลก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากเบนฮาดัด

เยโฮรัมปกครองยูดาห์

(2 พศด. 21:1-20)

16 เยโฮรัมลูกชายของเยโฮชาฟัทขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ตรงกับปีที่ห้าที่โยรัมเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล โยรัมเป็นลูกชายของอาหับ[b] 17 ตอนที่เยโฮรัมขึ้นเป็นกษัตริย์นั้น เขามีอายุสามสิบสองปี และเขาครองราชย์อยู่แปดปีในเมืองเยรูซาเล็ม 18 เยโฮรัมเดินตามรอยของกษัตริย์อิสราเอลองค์ก่อนๆ เขาใช้ชีวิตเหมือนกับที่ครอบครัวของอาหับเคยทำไว้ เพราะเขาแต่งงานกับลูกสาวของอาหับ เขาได้ทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ 19 อย่างไรก็ตาม เพราะพระยาห์เวห์เห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้พระองค์ พระองค์จึงไม่ทำลายยูดาห์ พระองค์เคยสัญญาว่าจะรักษาตะเกียงไว้ดวงหนึ่งสำหรับดาวิดและลูกหลานของเขาตลอดไป

20 ในยุคของเยโฮรัม ชาวเอโดมได้กบฏต่อยูดาห์และตั้งกษัตริย์ของตัวเองขึ้น

21 เยโฮรัม[c] กับกองทัพรถรบของเขาจึงยกไปที่ศาอีร์ ชาวเอโดมเข้าล้อมเขาและล้อมพวกผู้บังคับบัญชารถรบทั้งหลายของเขาไว้ แต่เขาลุกขึ้นและตีฝ่าออกมาได้ในตอนกลางคืน แต่กองทัพของเขาหนีกลับบ้านไป 22 พวกเอโดมจึงได้กบฏ และแยกตัวออกจากยูดาห์จนถึงทุกวันนี้

และในช่วงเดียวกันนั้น พวกลิบนาห์ก็ได้กบฏ แยกตัวออกจากยูดาห์ด้วย

23 เหตุการณ์ต่างๆในยุคสมัยของเยโฮรัม และทุกๆอย่างที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์

24 เยโฮรัมล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังอยู่กับพวกเขาในเมืองของดาวิด และอาหัสยาห์ลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

อาหัสยาห์ปกครองยูดาห์

(2 พศด. 22:1-6)

25 อาหัสยาห์ ลูกชายของเยโฮรัมขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ตรงกับปีที่สิบสองที่โยรัมเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล โยรัมเป็นลูกชายของอาหับ 26 ตอนที่อาหัสยาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์นั้น เขามีอายุยี่สิบสองปี และเขาครองราชย์อยู่หนึ่งปีในเมืองเยรูซาเล็ม แม่ของเขาชื่อว่านางอาธาลิยาห์ เป็นหลานสาวของกษัตริย์อมรีแห่งอิสราเอล 27 อาหัสยาห์เดินตามรอยของครอบครัวอาหับ และได้ทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่ครอบครัวของอาหับเคยทำไว้ เพราะเขาได้แต่งงานกับครอบครัวของอาหับ

28 อาหัสยาห์ร่วมกับโยรัม ลูกชายของอาหับ ออกไปสู้รบกับกษัตริย์ฮาซาเอลของชาวอารัม ที่ราโมท-กิเลอาด ชาวอารัมทำให้โยรัมได้รับบาดเจ็บ 29 กษัตริย์โยรัมจึงกลับไปที่ยิสเรเอล เพื่อรักษาบาดแผลที่ชาวอารัมได้ทำร้ายเขาไว้ที่ราโมท-กิเลอาดตอนที่เขาสู้รบกับกษัตริย์ฮาซาเอลของชาวอารัม อาหัสยาห์กษัตริย์ของยูดาห์ ลูกชายของเยโฮรัมได้ไปที่ยิสเรเอลเพื่อเยี่ยมเยียนกษัตริย์โยรัมลูกชายของอาหับที่บาดเจ็บอยู่

Footnotes

  1. 8:1 ฟื้นคืนชีพขึ้นมา เรื่องนี้ดูได้จาก บทที่ 4:8-37
  2. 8:16 ฉบับแปลกรีกโบราณเขียนไว้แค่นี้ ฉบับฮีบรูที่นิยมใช้กันเพิ่มคำว่า ในขณะที่เยโฮซาฟัทยังเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ (อย่างนี้หมายถึงทั้งพ่อกับลูกชายครอบครองยูดาห์ในเวลาเดียวกัน)
  3. 8:21 เยโฮรัม หรือ “โยรัม” ในภาษาฮีบรู